V-Star อีสานบุกตะลุย

ข่าวสว่างเพื่อการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
V-Star อีสานบุกตะลุย สู่เป้าหมายว่าที่แชมป์
“บอกโทษเกินร้อย ชิงทุนเกินล้าน”

ขณะนี้เด็กดี V-Star อีสานสุดคึกคัก ผู้ประสานงานรายงานว่าทั้งคุณครูผู้ให้แสงสว่าง เด็กดี V-Star ผู้ใหญ่ใจดีศูนย์กัลยาณมิตรต่างๆและผู้นำชุมชน ทั้งบ้าน วัด โรงเรียน ต่างร่วมแรงร่วมใจกันทำโครงการ “บอกโทษเกินร้อย ชิงทุนเกินล้าน” กันอย่างตั้งอกตั้งใจ จนเกิดผลการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับชุมชนมากมาย ทำให้ในขณะนี้ยอดการส่งผลงานของภาคอีสาน มาแรงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งภาคอื่นสามารถท้าประลองได้นะคะ เพราะคุณครูไม่ใหญ่เปิดโอกาสให้เข้าร่วมโครงการได้โดยไม่สงวนสิทธิ์การเป็นแชมป์ ขอเพียงแค่คุณมีใจ มีไฟ มีฝัน ที่จะมาร่วมกันสานมโนปณิธาน การฟื้นฟูศีลธรรมโลกของคุณครูไม่ใหญ่ให้สำเร็จ แถมยังฝากกลอนแทนใจมาถวายคุณครูไม่ใหญ่ว่า

“ V-Star อีสานภาคใหญ่ ใจเกินร้อย
ตัวน้อยๆแต่ใจสู้สู่เป้าหมาย
ไม่เคยกลัวอุปสรรคจักมลาย
น้อมใจกาย ช่วยหลวงพ่อ สานฝันเอย”

วีรกรรมของเด็กดี V-Star ภาคอีสาน วันนี้ส่งตรงมาจากแดน “พุทธมณฑลอีสาน ถิ่นฐานอารยธรรม ผ้าไหมล้ำเลอค่า ตักศิลานคร” หรือ จ.มหาสารคาม นั่นเอง จาก ร.ร.บรบือวิทยาคาร

คุณครูเสาวนีย์ ชำนาญเอื้อ คุณครูผู้ประสานงานโครงการ V-Star ร.ร.บรบือวิทยาคาร เล่าว่า “โครงการบอกโทษเกินร้อย ชิงทุนเกินล้าน เป็นโครงการที่เปลี่ยนสังคมได้อย่างดีเยี่ยมค่ะ เพราะทำโครงการไม่เท่าไหร่ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงกับตัวเด็กเอง และเป็นแรงบันดาลใจให้กับชุมชนรอบข้างด้วยค่ะ จากแต่ก่อนที่โรงเรียนจะค้นเจอบุหรี่ในลิ้นชักโต๊ะนักเรียน ซึ่งกลายเป็นแฟชั่นของเด็กไปแล้ว แต่พอรณรงค์และทำโครงการบอกโทษเกินร้อย โดยที่เมื่อตรวจพบเราจะเปลี่ยนวิธีการลงโทษเป็นการให้เขาไปทำการบ้านมาส่งคุณครู หาโทษของยาเสพติด สิ่งมึนเมาให้ได้อย่างน้อย คนละ 50 ข้อไม่ให้ซ้ำกัน เรียกว่า หนามยอก ก็ต้องเอาหนามบ่งค่ะ โดยที่จะให้เด็กกลุ่ม V-Star คอยดูแลเพื่อนๆ คอยให้กำลังใจเพื่อน คนที่ติดก็ให้เขาบอกโทษ พอเขาเริ่มคิด เขาก็คิดได้ จนทำให้เลิกได้หลายคนแล้วค่ะ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ดีมาก ได้ผลดีกว่าการใช้วิธีการรุนแรงซะอีกค่ะ

นอกจากนี้ได้มีกรณีศึกษาเกิดขึ้นที่โรงเรียน คือ เด็กนักเรียนชั้น ม. 1 ดื่มสุราและช็อคหมดสติ ต้องหามส่งโรงพยาบาล เกือบไม่รอดค่ะ ต้องให้น้ำเกลือ ปั๊มหัวใจ ให้ออกซิเจน ซึ่งเรื่องนี้ ด.ช.วุฒินันท์ เที่ยงคำ หรือ น้องเหล่ย อายุ 13 ปี ชั้น ม.1 เล่าว่า

“ผมเคยลองดื่มเหล้า และสูบบุหรี่ เพราะอยากลองครับ แบบว่าเห็นว่ามันเท่ห์ดี แบบเป็นวัยรุ่นคึกคะนองครับ คนที่ชวนก็เป็นเพื่อนๆนี่แหละครับ ผมก็แค่ลองนะครับ แต่ไม่ถึงกับติดงอมแงม ผมแอบลองโดยที่พ่อแม่ไม่ทราบด้วยซ้ำไป แต่ตอนนี้ผมไม่กลับไปหามันอีกแล้ว เพราะมีอยู่วันหนึ่ง ผมโดดเรียนไปดื่มเหล้ากับเพื่อนๆ อีก 5-6 คน เป็นเหล้าขาวครับ 40 ดีกรี ดื่มหมด 2 ขวดใหญ่ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงครับ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปเรียน อยู่กันคนละห้องครับ แต่ยังไม่ทันถึงห้องเรียน ต่างคนก็ต่างเกิดอาการช็อคครับ โชคดีครับที่คุณครูช่วยไว้ทัน ตัวผมเองยังโชคดี ที่แค่ให้น้ำเกลือ แต่เพื่อนผมสิครับต้องปั๊มหัวใจ ให้ออกซิเจน หลังจากวันนั้นผมก็เลิกเลยครับ เพราะมันทำให้ผมเจ็บ และทรมาน ผมยังโชคดีที่มีคุณครู คุณพ่อ คุณแม่ ที่คอยให้กำลังใจ ทำให้ผมเลิกได้ ผมจะทำความดีและจะตั้งใจเรียนมากขึ้น ให้พ่อกับแม่ได้ภูมิใจในตัวผมครับ

ด.ช.วุฒินันท์ เที่ยงคำ หรือ น้องเหล่ย (คนขวา)

ด.ช.จตุรงค์ ทิพนัด หรือ น้องต้า (คนซ้าย)
อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ร.ร.บรบือวิทยาคาร จ.มหาสารคาม

ด.ช.จาตุรงค์ ทิพนัด หรือ น้องต้า อายุ 13 ปี ชั้น ม. 1 เล่าว่า
“วันนั้นพอแยกกับเพื่อน ผมเดินยังไม่ทันถึงห้องเรียน ผมก็ช็อค หมดสติไปเลยครับ คิดว่าตัวเองต้องตายซะแล้ว รู้สึกตัวอีกที ผมเห็นตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วครับ ผมเห็นตัวเองนอนให้ออกซิเจน และน้ำเกลืออยู่บนเตียง ผมเจ็บครับ หายใจ ไม่ออกเลย มันทรมานมาก แต่ก็โชคดีจังที่ผมรอดมาได้ หลังจากวันนั้นมาผมก็เลิกเลยครับ แค่ได้กลิ่นเหล้าผมก็จะอ้วกแล้วครับ ผมได้กำลังใจจากพ่อ แม่ และคุณครู ต่อไปผมจะตั้งใจเรียนหนังสือ จะมาโรงเรียนทุกวัน จะช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ในอนาคตผมอยากเป็นทหาร เพราะจะได้ช่วยเหลือผู้คน และทำให้คนอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขครับ แต่ก่อนผมไม่รู้จักเด็กดี V-Star แต่ตอนนี้ผมอยากเป็นเด็กดี V-Star แล้วครับ ผมขอสมัครเพิ่มอีกคนได้มั้ยครับ ผมอยากฝากบอกเยาวชนที่กำลังติดสิ่งเสพติดอยู่ครับว่า “อย่าไปเสพมันเลยครับ มันไม่ให้ประโยชน์อะไร มันมีโทษมากครับ แถมยังต้องเสียเงินทองอีก แทนที่จะเอาไปใช้ซื้อสิ่งที่มีประโยชน์ เรียนหนังสือก็ไม่รู้เรื่อง มีแต่เสียครับ ไม่มีดีเลย”

นายเอกวิทย์ คำยา หรือ น้องตั๋น นักเรียนชั้น ม. 5 เด็กดี V-Star
ร.ร.บรบือวิทยาคาร กราบขอความรู้เรื่องโทษภัยสิ่งมึนเมา จากหลวงพ่อเจ้าอาวาส

ทางด้านนายเอกวิทย์ คำยา หรือน้องตั๋น ชั้น ม. 5 แกนนำ V-Star ของ ร.ร.บรบือวิทยาคาร เสนอแนวทางแก้ปัญหาในเรื่องนี้ว่า
“ผมคิดว่าการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดช่วยได้เพียงบางส่วนเท่านั้นครับ วิธีการเลิกยุ่งเกี่ยวกับสิ่งมึนเมาที่ดีที่สุด คือ ต้องเริ่มต้นที่ตัวเราเองก่อน โดยที่เราต้องฝึกฝนตนเองไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอย่างเด็ดขาด และทางที่ดีที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งหมด รัฐบาลควรจะออกเป็นกฏหมายห้ามผลิตไปเลยครับ ถ้าห้ามโรงงานผลิตได้ จะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เรียกว่าตัดปัญหาไปเลยครับ และจากที่มีข่าวว่าจะมีการน้ำเมาเข้าตลาดหลักทรัพย์ ผมไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ ผมคิดว่ามันไม่เหมาะสม เพราะว่ามันจะเป็นการขยายทำให้คนซื้อมากขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมการดื่มเหล้า เบียร์มากขึ้นด้วยครับ แม้จะทำให้ราคามันถูกลงก็จริง แต่โทษของมันมากขึ้นครับ สงสารเยาวชนเถอะนะครับ อย่าเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์เลย แล้วผมก็สงสารคนไทยด้วยกันเองด้วยครับ”

ผม (น้องตั๋น) ไปทุกที่ครับ คุณลุงผู้ใหญ่บ้าน ผมก็ไปขอความรู้ด้วยครับ

คุณลุง คุณป้าในหมู่บ้าน ช่วยกันให้ความรู้ถึงโทษภัยของสิ่งมึนเมาครับ

คุณครูเสาวนีย์ เล่าเสริมว่า ผลจากการดำเนินโครงการ “บอกโทษเกินร้อย ชิงทุนเกินล้าน” ที่ผ่านมาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชุมชน มีการรณรงค์ให้การจัดงานศพปลอดเหล้า โดยวิธีการรณรงค์ก็ได้ให้ให้ความรู้กับชุมชนเรื่องอานิสงค์ของบุญ เรื่องอบายมุขและศีล 5 ว่า การดื่มเหล้าในงานศพหรืองานบุญ แทนที่คนตายจะได้บุญกลับได้บุญน้อยลง แต่ถ้าไม่มีเหล้าจะได้บุญทั้งคนตาย และคนเป็น ซึ่งก็ดีใจมากค่ะที่เรารณรงค์เรื่องนี้ได้สำเร็จ

คุณครูเสาวนีย์ ชำนาญเอื้อ คุณครูผู้ประสานงานโครงการ V-Star
ร.ร.บรบือวิทยาคาร จ.มหาสารคาม

นอกจากนี้การไปทำบุญที่วัด จากแต่ก่อนที่ชาวบ้านจะถวายบุหรี่ในสังฆทานที่ถวายพระ เราก็รณรงค์ในเรื่องนี้ จนเดี๋ยวนี้ยืนยันได้เลยว่าวัดแถวนี้ปลอดสิ่งเหล่านี้ 100 % แล้วค่ะ คุณครูทุกคนจะทุ่มเททำโครงการนี้กันมาก เพราะด้วยความเป็นครูของเรา ทำให้เราทำโครงการนี้ไม่ยากเลย เราทำมาหมดทุกโครงการของหลวงพ่อ ตั้งแต่โครงการ “ทางก้าวหน้า” จนมาถึง V-Star เรียกได้ว่าเป็นโครงการในอุดมการณ์ของครูเลยค่ะ และจากการที่พวกเราได้ไปร่วมงาน “รวมพลังเด็กดี V-Star ที่วัดพระธรรมกาย” ภาพในวันนั้นมีผลทำให้เด็กของเราเห็นความเป็นระบบ ระเบียบของวัด ทำให้เขามีกำลังใจที่จะทำความดีต่อไป และเป็นต้นแบบให้กับเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ในโรงเรียนด้วยค่ะ ทำให้ตอนนี้มีเด็กหลายๆคนแอบมาบอกว่า “เห็นพี่ๆ V-Star แล้วไม่กล้าดื้อเลย อยากเป็นเด็กดี V-Star อย่างพี่ๆ บ้าง”

ดิฉันขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อมากๆ นะคะที่ทำให้มีโครงการนี้เกิดขึ้น คณะครูทุกคนก็จะตั้งใจทำโครงการต่อไปเรื่อยๆ และจะทำหน้าที่ชักชวนโรงเรียนข้างเคียงให้มาเข้าร่วมโครงการนี้ด้วยค่ะ สำหรับดิฉันเองก็ใจเต็มร้อยอยู่แล้วค่ะ อีก 8 ปีจะเกษียณ ก็จะทำเต็มที่ค่ะ