เธอ...ผู้นำแสงสว่างมาให้ผม


[ 24 ต.ค. 2549 ] - [ 18264 ] LINE it!

ผลปฏิบัติธรรม

ฮาลิม (ชาวอินโดนีเซีย)
" />

    ผมชื่อ ฮาลิม อายุ 26 ปี เป็นชาวอินโดนีเซีย ผมเติบโตมาในครอบครัว ที่พ่อแม่นับถือพระพุทธศาสนาแบบมหายาน ครั้งเมื่อผมเป็นวัยรุ่น ผมมีโอกาสไปศึกษาต่อที่ออสเตรเลีย และทำให้ผมได้ศึกษาหัวใจ กับเพื่อนสาวชาวไทย
 
" />
    ก่อนหน้านี้ ชีวิตของผมค่อนข้างลำบาก เพราะธุรกิจของครอบครัวเริ่มประสบปัญหาฟุบแฟบ พ่อแม่ก็เริ่มมีปากเสียงกันทุกวัน ทำให้ผมเหนื่อยระอา จนรู้สึกว่ามีภาระที่หนักอึ้งแบกอยู่บนไหล่ของหัวใจตลอดเวลา ผมทั้งเครียดและเศร้า ช่องว่างในหัวใจเต็มไปด้วยความสับสน
 
    ตอนนั้น เพื่อนสาวชาวไทยได้เดินเข้ามาในชีวิตผม พร้อมกับมีคำแนะนำให้ผมรู้จัก วัดพระธรรมกาย เธอบอกว่า "ถ้าเบื่อ เซ็ง เครียด ก็ต้องไปวัดสิ" เธอได้พาผมไปที่ศูนย์สาขาวัดพระธรรมกายที่ออสเตรเลีย  ซึ่งเริ่มต้นผมก็ไม่อยากไปเลย เพราะไม่ชอบนั่งสมาธิ แต่ด้วยความที่ผมไปพบเธอบ่อยๆ เธอก็พยายามทีละเล็ก ทีละน้อยที่จะพาผมไปวัด จนผมใจอ่อน เมื่อมาเมืองไทยเธอพาผมมาวัดพระธรรมกาย ร่วมงานวันอาทิตย์ และพิธีสำคัญต่างๆ
 
" />
    จนกระทั่ง ปี พ.ศ.2549 เดือนกรกฎาคม เธอบอกว่า "มีงานบวชนานาชาติ  ทำไมถึงไม่ลองมาบวชล่ะ เพราะถ้าบวชก็จะสามารถเอาบุญให้พ่อแม่ได้เยอะเลย บุญเป็นสิ่งที่เงินไม่สามารถซื้อได้" ฟังแล้วผมก็เอากลับไปนอนคิดหลายตลบ แล้วก็ search ข้อมูลมากมายจาก internet เมื่อตกลงปลงใจได้ผมก็เดินทางมาบวช
 
    ชีวิตนักบวชเป็นชีวิตที่เรียบง่ายแต่ มีขั้นมีตอนและมีความสงบ และทำให้ผมได้นั่งสมาธิอย่างจริง
" />
จังด้วย แต่ก่อนเมื่อถึงเวลานั่งสมาธิ ถ้าผมหลบได้ก็จะหลบ " />
เลี่ยงได้ก็จะเลี่ยง " />
แต่พอบวชแล้วหลบเลี่ยงยากมากเพราะอยู่ในสายตาพระพี่เลี้ยงตลอดเวลา
คราวนี้พอเริ่มนั่งสมาธิ ผมก็เริ่มมีอาการเหมือนเพื่อนๆ " /> " /> 
  " /> " />
คือ ปวดร่างกายไปหมด แล้วขาก็เริ่มชา แย่ล่ะผมจะเป็นอัมพาตหรือเปล่า " /> " />
โอ้! ฟุ้งซ่านไปมากมาย แต่พอหมดเวลาก็ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวได้ปกติ ผมก็ทนนั่งไปเรื่อยๆ
 
" /> " />
    โดยปกติ ผมจะนั่งท่ามาตรฐานคือขาขวาทับขาซ้าย หลับตาแค่ขนตา touch กัน แล้วก็ไม่คิดอะไรเลย ทำใจนิ่งๆเฉยๆ 
แล้วผมก็เห็นความมืด แต่ก็มีความคิดแล่นไปแล่นมา จากขวาไปซ้าย ซ้ายไปขวา จนเหมือนตัวเองยืนบนสี่แยกของความคิด แต่โชคดีที่ผมไม่สนใจก็เลยไม่เครียด " /> " /> " />
นั่งเฉยๆไปเรื่อยๆ " /> " /> " />
มองในความมืดข้างในไปอย่างสบายๆ สักพักผมก็รู้สึก เหมือนตัวเองกำลังตกลงจากท้องฟ้า คล้ายๆกับโดดดิ่งลงมาจากเครื่องบินที่กำลังบิน แม้ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวจะมืดไปหมด แต่ผมกลับรู้สึก happy กับการกับการโดดร่มภายในมากๆ มันเหมือนกับการโดดร่มจากเครื่องบิน
หลังนั่งสมาธิ  ผมจะรู้สึกดีทุกครั้งที่นั่งสมาธิ  เพราะเพียงแค่ได้นั่ง ก็เหมือนกับว่าผมได้ก้าวเข้าไปใกล้พระพุทธเจ้า ผมรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก อืมม์...ยากที่จะอธิบายครับ
" /> " /> " /> " />
    แต่ก่อนผมคิดว่า การนั่งสมาธิ คงจะน่าเบื่อมาก  เพราะว่ามันเป็นการนั่งเฉยๆ แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ซึ่งผมก็ไม่รู้จะไป มีสมาธิกับสิ่งใดด้วย แต่ตอนนี้ผมไม่รู้สึกอย่างนั้นอีกแล้ว ผมรู้สึกว่าการนั่งสมาธิเป็นสิ่งที่ดีเลิศ เหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว
ทุกวันนี้แม้จะลาสิกขามาแล้ว แต่ผมก็รักในการนั่งสมาธิมากๆ ผมจะนั่งทุกๆคืน ครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อยก่อนนอน
   
หลังจากบวชแล้ว ชีวิตของผมก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ผมมีงานที่ดี และมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับครอบครัว ผมได้เรียนรู้จากการบวชว่า ชีวิตของการอยู่วัด ต้องอดทนมาก หากมีอะไรมากระทบใจ ก็ปล่อยให้มันผ่านไป คือ จากเดิมผมเจออะไรก็เก็บมาคิดหมด คิดเล็กคิดน้อย แต่ตอนนี้ผม let it be (ปล่อยให้มันเป็นไป) ได้เลยครับ
 
    ตอนนี้ ผมพยายามแนะนำแม่และเพื่อนของแม่  เกี่ยวกับการนั่งสมาธิ  ท่านก็เอาไปทำตามด้วยครับ 
ผมอยากขอบพระคุณหลวงพ่อ  ที่ให้โอกาสในการบวชแก่ผมในครั้งนั้น เป็นประสบการณ์ที่วิเศษ น่าตื่นเต้นและมีคุณค่าที่สุดในชีวิตผม ผมอยากจะช่วยหลวงพ่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในอินโดนีเซีย และขอฝากอินโดนีเซียไว้ในพื้นที่ของใจของหลวงพ่อด้วยนะครับ
" /> " /> " /> " /> " /> " /> " /> " /> " /> " /> " /> " /> " /> " /> " />


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ผมเริ่มเข้าใจคำว่า ผมเริ่มเข้าใจคำว่า "สบาย" ว่าเป็นอย่างไร

คำว่า คำว่า "ความสุขที่แท้จริง"

ความอัศจรรย์ของศูนย์กลางกายฐานที่ 7ความอัศจรรย์ของศูนย์กลางกายฐานที่ 7



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ