ชาดก 500 ชาติ
อันตชาดก-ชาดกว่าด้วยที่สุด ๓ ประเภท
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร
ในสมัยพุทธกาล เมื่อครั้งที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภพระเทวทัตกับพระโกกาลิกะ
ต่างสรรเสริญกันเอง แล้วจึงทรงตรัสพระธรรมเทศนาดังนี้
พระโกกาลิกะกล่าวยกย่องคุณของพระเทวทัตเพื่อให้ชาวเมืองพากันเลื่อมใส
ในครั้งนั้นเมื่อพระเทวทัตเสื่อมลาภสักการะ พระโกกาลิกะซึ่งเป็นศิษย์เอกจึงเข้าไปยังตระกูลทั้งหลาย กล่าวคุณยกย่องพระเทวทัตซึ่งเป็นอาจารย์ของตน
“ พระเทวทัตผู้เป็นอาจารย์ของเรา เกิดในราชวงศ์แห่งพระเจ้าโอกกากราช มีธรรมวิเศษเป็นที่นับถือสักการะของคนทั้งหลาย
พระโกกาลิกะมีความกระหยิ่มยิ้มย่องพึงพอใจที่ตนพูดให้คนเลื่อมใสในตัวพระเทวทัตได้
พวกเจ้าจงยกย่องสักการะอาจารย์ของเรา ” “ แต่ข้าได้ยินว่า พระเทวทัตเป็นที่รังเกียจของหมู่สงฆ์นี่น่า ” “ พวกเจ้าไปฟังมาจากไหน อาจารย์ข้าเป็นที่เคารพ
สักการะย่อมมีคนริษยา ใส่ไฟเป็นธรรมดา แต่อาจารย์ข้าไม่เคยจะเอาเรื่องพวกนี้มาใส่ใจ ”
พระเทวทัตกล่าวถึงความเป็นผู้รอบรู้ของพระโกกาลิกะให้ชาวเมืองพากันชื่นชมและเลื่อมใส
“ คงจริงดั่งท่านว่ามา พระเทวทัตช่างน่านับถือโดยแท้ ” “ นั้นแหละ ๆ ว่าแต่วันนี้ พวกเจ้ามีอะไรมาถวายบ้างล่ะ ไหน ๆ ดูสิ ” (ฮ่า ๆ ๆๆ เจ้าพวกโง่ หลอกแค่นี้ก็เชื่อ
อาจารย์ข้าชั่วช้าจะตาย ฮะ ฮ่า ฮ่า ) ฝ่ายพระเทวทัตผู้เป็นอาจารย์ก็กล่าวคุณของพระโกกาลิกะผู้เป็นศิษย์ให้ชาวบ้านทั้งหลายยกย่องนับถือเช่นกัน
พระเทวทัตนั้นรู้ดีว่าพระโกกาลิกะศิษย์ตนนั้นมีความชั่วร้ายพอๆ กับตน
“ พระโกกาลิกะศิษย์ของข้าเกิดในตระกูลพราหมณ์อันสูงส่ง เป็นผู้รอบรู้และมีคุณธรรมสูง พวกเจ้าจงเคารพยกย่องพระโกกาลิกะศิษย์ของเรา ”
“ พระโกกาลิกะ ข้าเคยได้ยินชาวบ้านพูดถึงในทางเสียซะมากว่า ” “ เจ้าพวกโง่ นั้นเป็นการทดสอบความอดทนต่อคำติฉินนินทาของศิษย์ต่างหาก
ศิษย์ของข้าไม่เก็บเอาคำนินทานั้นมาเป็นอารมณ์หรอก ”
พระเทวทัตและพระโกกาลิกะหลอกฉันอาหารชาวบ้านโดยการกล่าวอ้างถึงคุณวิเศษของกันและกัน
“ ถ้างั้นพวกเราจะให้การเคารพต่อพระโกกาลิกะตามท่านว่า ” “ ดีมาก ๆ ตอนนี้ข้าหิวแล้ว เจ้าจงยกอาหารมาถวายเถิด ” (หึ หึ หึ โง่จริง ๆ เจ้าพวกนี้
ศิษย์ข้าก็ชั่วช้าพอ ๆ กับข้านั้นแหละ ฮะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ) พระเทวทัตกับพระโกกาลิกะนั้นต่างกล่าวยกย่องโอ้อวดคุณของกันและกัน
ชาวเมืองต่างพากันพูดถึงคุณวิเศษของพระเทวทัตและพระโกกาลิกะ
เที่ยวหลอกฉันอยู่ในเรือนของชาวบ้านทั้งหลายด้วยประการนี้ “ พวกเจ้ารู้หรือเปล่าว่าพระเทวทัตมาฉันภัตตาหารที่บ้านข้าด้วยนะ ” “ จริงรึ เมื่อวาน
ข้าเพิ่งนิมนต์พระโกกาลิกะมาที่บ้าน ท่านทั้งสองเป็นผู้วิเศษ น่าเคารพจริง ๆ ”
หญิงสาวได้นิมนต์พระเทวทัตไปฉันภัตตาหารที่บ้านของตน
“ ถ้าอย่างนั้นข้าต้องนิมนต์ท่านทั้งสองมาที่บ้านข้าบ้างแล้วล่ะ อุ๊ย พูดถึงก็มาโน่นแล้ว นิมนต์ท่านทั้งสองไปที่บ้านข้านะเจ้าค่ะ ” “ ได้สิ ว่าแต่วันนี้
มีอะไรมาถวายล่ะ ” “ ยังไงก็ให้สมเกียตริของอาจารย์ข้าหน่อยนะ ”
พระโกกาลิกะได้ชี้แจงให้หญิงสาวทราบว่าควรจะจัดภัตรให้เหมาะสมกับเกียรติอาจารย์ของตน
อยู่มาวันหนึ่งภิกษุทั้งหลายนั่งสนทนากันในโรงธรรมสภาถึงเรื่องที่พระเทวทัตและพระโกกาลิกะต่างกล่าวถ้อยคำพรรณาคุณอันไม่มีจริงของและกัน
แล้วเที่ยวฉันอาหารอยู่ตามบ้านของชาวบ้าน “ ข้าได้ยินมาว่าพระเทวทัตกับพระโกกาลิกะ
เหล่าภิกษุทั้งหลายมาประชุมกัน ณ โรงธรรมสภา
กล่าวยกย่องคุณวิเศษของกันและกันให้ชาวบ้านได้ฟังด้วยล่ะ ” “ ยกหางเก่งทั้งศิษย์ทั้งอาจารย์เลยนะ ” “ นิสัยน่ารังเกียจทั้งคู่เลย เที่ยวหลอก
ฉันอาหารตามบ้านด้วยการอ้างคุณวิเศษ ” พระศาสดาเสด็จผ่านมา เห็นภิกษุทั้งหลายกำลังจับกลุ่มสนทนากัน
ภิกษุทั้งหลายต่างพูดคุยกันถึงเรื่องของพระเทวทัตและพระโกกาลิกะ
เมื่อทรงตรัสถามและทรงทราบแล้ว จึงตรัสกล่าวกับภิกษุทั้งหลาย “ พระเทวทัตกับพระโกกาละกะต่างกล่าวยกย่องคุณวิเศษของกันและกัน
เพื่อหลอกฉันอาหารของชาวบ้านพระเจ้าค่ะ ” “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายมิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น ที่พระเทวทัตกับพระโกกาลิกะนั้น
ภิกษุทั้งหลายได้เล่าเรื่องของพระเทวทัตและพระโกกาลิกะให้พระพุทธองค์ได้ทรงทราบ
กล่าวคำพรรณาคุณอันไม่เป็นจริง แล้วบริโภคภัตตาหาร แม้ในกาลก่อนพระเทวทัตกับพระโกกาลิกะก็บริโภคแล้วเหมือนกัน ” พระศาสดาตรัสกับ
ภิกษุทั้งหลายแล้ว จึงทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาทกดังต่อไปนี้
นครพาราณสีในการปกครองของพระเจ้าพรหมทัต
ในอดีตกาลเมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในพระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดเป็นรุกขเทวดาอยู่ที่ต้นละหุ่งในบริเวณบ้านแห่งหนึ่ง ในกาลนั้น
โคแก่ของชาวบ้านตัวหนึ่งได้ตายลง พวกชาวบ้านจึงช่วยกันลากซากโคแก่นั้นไปทิ้งที่ป่าละหุ่ง
พระโพธิสัตว์ได้บังเกิดเป็นรุกขเทวดาสิงสถิตอยู่ในป่าต้นละหุ่ง
“ อ้าวเร่งมือหน่อยสิ ซากวัวนี้เหม็นจะตาย ” “ วัวนี่มันเบาซะที่ไหน เจ้าก็ช่วยกันบ้างสิ ” “ เอ้า ถึงซะที่ ทิ้งไว้ตรงนี้เลยก็แล้วกันนะ ” “ เอาละ ขอบใจพวกเจ้ามาก ”
ในป่าละหุ่งนั้นมีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งกำลังหิวโซ มันได้ตามกลิ่นซากโคแก่นั้นมาจนเจอ แล้วจึงลงมือกินซากโคนั้น
โคแก่ของชาวบ้านตัวหนึ่งได้ล้มตายลง
“ โอ้โห วัวทั้งตัวเลย กินอิ่มไปหลายวันเลยสิเรา ” ขณะที่เจ้าสุนัขจิ้งจอกกำลังแทะกินเนื้อโคอยู่ ก็มีกาตัวหนึ่งบินมาเกาะอยู่บนต้นละหุ่งแล้วมองมาที่ซากโคนั้น
ด้วยหวังจะกินเป็นอาหาร “ อร่อย ๆ คอยดูสิ ข้าจะกินไม่ให้เหลือเลย ฮะ ฮะ ฮ่า ฮ่า ”
ชาวบ้านช่วยกันลากซากโคแก่ไปทิ้งในป่าละหุ่ง
“ เนื้อวัวนั่นน่ากินจริงๆ แต่เจ้าจิ้งจอกนั่นมันกำลังกินอยู่ แบบนี้ข้าก็อดนะสิ ” กานั้นเมื่อเห็นจิ้งจอกกำลังกินซากโคอย่างเอร็ดอร่อย มันจึงแกล้งพูด
ยกย่องเจ้าจิ้งจอกเพื่อจะได้กินซากโคนั้นบ้าง
สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งได้ได้ตามกลิ่นเหม็นเน่ามาจนเจอซากโคที่ตายในป่าละหุ่ง
“ ท่านพญาจิ้งจอกผู้มีร่างกายล่ำสัน องอาจดั่งพญาราชสีห์ ข้าขอนอบน้อมแด่ท่าน ขอให้ข้าได้กินเนื้อนั่นบ้างเถิด ” ฝ่ายสุนัขจิ้งจอกเมื่อได้ยิน
กากล่าวยกย่องตนดังนั้นก็ชื่นใจ แล้วจึงกล่าวตอบด้วยการยกย่องกาเช่นกัน
อีกาตัวหนึ่งได้มองเห็นสุนัขจิ้งจอกกำลังกินซากโคอย่างน่าเอร็ดอร่อย
“ กุลบุตรย่อมสรรเสริญกุลบุตรด้วยกัน ท่านกาผู้มีสร้อยคองามเด่น ดั่งเช่นนกยูง เชิญท่านลงมาจากต้นละหุ่ง มากินเนื้อให้สบายใจเถิด ” “ แหม ขอบใจท่านมาก
งั้นข้าไม่เกรงละนะ ” เมื่อสุนัขจิ้งจอกเชิญชวนแล้ว
อีกาคิดวางแผนการที่จะพูดกับสุนัขจิ้งจอกเพื่อให้ตนได้กินซากโคนั้นบ้าง
กาจึงบินลงมาจากต้นละหุ่ง แล้วจิกกินเนื้อโคนั่นกันกับสุนัขจิ้งจอก “ ท่านกาผู้งามดุจพญาหงส์ กินเยอะ ๆ เลย ข้ายินดีแบ่งให้ ” “ ท่านพญาจิ้งจอก
ผู้ยิ่งใหญ่ดุจราชสีห์ ท่านช่างมีน้ำใจจริง ๆ ”
อีกาและสุนัขจิ้งจอกได้พูดยกย่องสรรเสริญซึ่งกันและกัน
รุกขเทวดาซึ่งอยู่ที่ต้นละหุ่งเห็นกากับสุนัขจิ้งจอกกล่าวยกย่องกันตามที่ไม่เป็นจริงนั้น จึงกล่าวขึ้นว่า “ บรรดามฤคชาติทั้งหลาย สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์เลว
ที่สุด บรรดาปักษีทั้งหลาย กาเป็นสัตว์ที่เลวที่สุด
อีกาและสุนัขจิ้งจอกต่างพากันกินซากโคด้วยความเอร็ดอร่อย
บรรดารุกขชาติทั้งหลาย ต้นละหุ่งเป็นต้นไม้ที่เลวที่สุด ที่สุดทั้ง ๓ ประเภทมาสมาคมกันแล้ว ” พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงแล้ว
จึงทรงประชุมชาดกว่า
รุกขเทวดาได้มองเห็นสุนัขจิ้งจอกและกากล่าวสรรเสริญกันในสิ่งที่ไม่เป็นจริงโดยตลอด
สุนัขจิ้งจอกในกาลนั้น ได้กำเนิดเป็น พระเทวทัต
กาในกาลนั้น ได้กำเนิดเป็น พระโกกาลิกะ
รุกขเทวดา เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า