ตัจฉกสูกรชาดก ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ


[ 12 มิ.ย. 2563 ] - [ 18276 ] LINE it!

ชาดก 500 ชาติ

ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

พระเจ้าปเสนทิโกศลและพระเจ้าอชาตศัตรูได้ทำสงครามรบราฆ่าฟันแย่งชิงบ้านเมืองซึ่งกันและกัน

พระเจ้าปเสนทิโกศลและพระเจ้าอชาตศัตรูได้ทำสงครามรบราฆ่าฟันแย่งชิงบ้านเมืองซึ่งกันและกัน
  
       ครั้งเมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูและพระเจ้าปเสนทิโกศลได้ก่อสงครามทรงรบเพื่อชิงบ้านเมืองนั้น ทั้งสองพระองค์ทรงรบกันหลายครั้งหลายครา ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะอยู่อย่างนั้น
ในคราวแรกของการทำสงคราม พระเจ้าอชาตศัตรูทรงมีชัย กองทัพของพระเจ้าปเสนทิโกศลไม่สามารถต้านทานกองทัพของพระเจ้าอชาตศัตรูไว้ได้
จึงถอนร่นกลับเมืองเพื่อเตรียมวางแผนการศึกครั้งต่อไป
 
กองทัพของพระเจ้าปเสนทิโกศลและกองทัพของพระเจ้าอชาตศัตรูต่างผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ
 
กองทัพของพระเจ้าปเสนทิโกศลและกองทัพของพระเจ้าอชาตศัตรูต่างผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ
 
       “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ชนะแล้ว ครั้งนี้เราชนะแล้ว ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ” พระเจ้าปเสนทิโกศลเมื่อเสียท่าจากศึกครั้งที่แล้ว ก็รู้สึกโกรธแค้นเป็นอันมากเร่งคิดหาวิธีรบครั้งต่อไป เพื่อนำชัยชนะ
มาให้ได้ “ จะมีวิธีการรบอย่างไรบ้างนะ ที่จะทำให้เราสามารถเอาชนะได้ จะทำอย่างไรให้สามารถจับตัวพระเจ้าอชาตศัตรูมาให้ได้ ”
 
กองทัพของพระเจ้าอชาตศัตรูได้รับชัยชนะในที่สุด
 
กองทัพของพระเจ้าอชาตศัตรูได้รับชัยชนะในที่สุด
 
       “ ข้าแต่พระมหาราช ธรรมดาว่าภิกษุทั้งหลายย่อมเป็นผู้ฉลาดในความคิดอ่าน ควรที่พระองค์จะส่งคนสอดแนมไปคอยกำหนดถ้อยคำของหมู่ภิกษุดู พระเจ้าค่ะ ”
“ ดี ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าจงรับคำสั่งจากเรา ส่งราชบุตรผู้หนึ่งไปสู่พระวิหาร แล้วก็ซ่อนตัวเสีย คอยจดจำเอาถ้อยคำของพระคุณเจ้าทั้งหลายมาให้จงได้ ”

พระเจ้าปเสนทิโกศลได้คิดหาวิธีที่จะทำให้ตนรบชนะพระเจ้าอชาตศัตรูให้จงได้
 
พระเจ้าปเสนทิโกศลได้คิดหาวิธีที่จะทำให้ตนรบชนะพระเจ้าอชาตศัตรูให้จงได้
 
       ในพระเชตวันวิหารนั้นมีที่เป็นพระเถระแก่สองรูปอยู่ที่บรรณศาลาหลังวัด รูปหนึ่งนามว่า ธนุคคหติสสเถระ รูปหนึ่งชื่อว่า มันตทัตตเถระ ขณะที่กำลังก่อกองไฟอยู่นั้น
ก็ได้พูดคุยถึงเรื่องสงครามของพระเจ้าอชาตศัตรูและพระเจ้าโกศล “ พระราชาปเสนทิโกศลองค์นี้ช่างเขลาเสียจริง ๆ
 
พระเจ้าปเสนทิโกศลส่งคนไปสอดแนมฟังพระเถระคุยกันในพระวิหาร
 
พระเจ้าปเสนทิโกศลส่งคนไปสอดแนมฟังพระเถระคุยกันในพระวิหาร
 
       พระองค์คงจะทรงทราบแต่เพียงเสวยกกระยาหารประมาณ 1  ถาดเท่านั้นเอง ” “ เหตุใด ท่านถึงกล่าวอย่างนั้นเล่า ” “ พระราชาพ่ายแพ้ศัตรูผู้เป็นเพียงตัวหนอนในพระอุทร
ของพระองค์ก็ว่าได้ การรบมันต้องมียุทธวิธี การที่จะเอาชนะกองทัพพระเจ้าอชาตศัตรูนั้น มันต้องมีวิธีการ ช่องเขาตรงโน้นเหมาะที่จะวางคนไว้สองข้าง ต้องวางแผนล่อให้ข้าศึก
เข้ามา พอรู้ว่าเข้ามาภายในแล้ว ก็โห่ร้องก้องสนั่นล้อมไว้ กระทำให้อยู่ในกำมือแล้วก็จับเอา เหมือนจับปลาที่เข้าไซนั่นแหละ ”

พระเจ้าปเสนทิโกศลสามารถจับพระเจ้าอชาตศัตรูได้ด้วยวิธีการที่แอบฟังมาจากพระเถระ
 
พระเจ้าปเสนทิโกศลสามารถจับพระเจ้าอชาตศัตรูได้ด้วยวิธีการที่แอบฟังมาจากพระเถระ
 
      ผู้ที่พระราชาทรงใช้ไปสืบฟังถ้อยคำนั้นแล้ว พากันกราบทูลแด่พระเจ้าปเสนทิโกศล ครั้งนั้นพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงเสด็จไปด้วยกองทัพใหญ่ ทรงกระทำตามแผนการ
ที่ฟังจากพระเถระ ทำให้สามารถจับพระเจ้าอชาตศัตรูได้  เรื่องราวที่ว่าพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงจับพระเจ้าอชาตศัตรูได้ ด้วยการจัดแจงของพระธนุคคหติสสเถระโด่งดัง
ไปในกลุ่มภิกษุ พากันยกเรื่องนั้นขึ้นสนทนาในธรรมสภา
 
เหล่าภิกษุทั้งหลายต่างพากันสนทนาถึงความสามารถของพระธนุคคติสสเถระที่มีความฉลาดในการจัดขบวนรบ
 
เหล่าภิกษุทั้งหลายต่างพากันสนทนาถึงความสามารถของพระธนุคคติสสเถระที่มีความฉลาดในการจัดขบวนรบ
 
       “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น ถึงในครั้งก่อนธนุคคหติสสเถระ ก็เป็นผู้ฉลาดในการจัดขบวนรบ ” ลำดับนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนำอดีตนิทานมาเล่าดังต่อไปนี้
ในอดีตกาลมีช่างไม้ผู้หนึ่ง อาศัยอยู่ใกล้ประตูพระนครพาราณสี วันหนึ่งเขาได้เดินเข้าไปในป่าท้ายหมู่บ้านนั้น เพื่อหาไม้ดี ๆ มาประกอบงานช่างของเขา 
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนำ ตัจฉกสูกรชาดก มาตรัสเล่าแก่หมู่ภิกษุสงฆ์ในธรรมสภา
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนำ ตัจฉกสูกรชาดก มาตรัสเล่าแก่หมู่ภิกษุสงฆ์ในธรรมสภา
     
       ขณะที่เขากำลังเดินสำรวจดูไม้อยู่นั้น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นลูกหมูตัวหนึ่งตกอยู่ในหลุม “ เฮ้ย นี่ลูกหมูนี่น่า น่าสงสารจังเลย นี่คงเผลอเดินตกหลุมมาละสิ มามะ มามะ
โอ๋ ไม่เป็นไรนะ น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย ฉันจะเลี้ยงแกไว้แล้วกัน กลับบ้านด้วยกันนะเจ้าหมูน้อย ”

ช่างไม้ผู้หนึ่งอาศัยอยู่ใกล้ประตูพระนครพาราณสี
 
ช่างไม้ผู้หนึ่งอาศัยอยู่ใกล้ประตูพระนครพาราณสี
 
       ด้วยความรักใคร่เอ็นดูแต่แรกเห็น ช่างไม้นำลูกหมูตัวนั้นมาเลี้ยงไว้ในบ้าน แล้วตั้งชื่อให้ว่า  ตัจฉกสุกร เขาให้การเลี้ยงดูเจ้าหมูตัจฉกสุกรอย่างดี “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เจ้านี่ก็ซนเหมือนกันนะ ตั้งแต่มีเจ้ามาอยู่ด้วย ข้าไม่เคยเหงาเลย ดีจังเลย ” ทั้งหมูและช่างไม้ผู้เป็นเจ้าของต่างอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
 
ช่างไม้เข้าป่าได้เจอลูกหมูซึ่งตกอยู่ในหลุมและเขาก็นำมันกลับมาเลี้ยงที่บ้าน
 
ช่างไม้เข้าป่าได้เจอลูกหมูซึ่งตกอยู่ในหลุมและเขาก็นำมันกลับมาเลี้ยงที่บ้าน
 
       ตัจฉกสุกรเมื่อได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีก็เติบโตเป็นหมูที่สมบูรณ์ ร่างกายของมันใหญ่โตสง่างาม มีกำลังมากมาย มันสามารถช่วยช่างไม้ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการ
เอาจะงอยปากพลิกไม้ให้ก็ได้ เอาเส้นบรรทัดพันจมูกลากจมูกไปให้ก็ได้ เอาปากคาบขวาน สิ่ว ค้อน มาให้ก็ได้
 
ตัจฉกสุกรเติบโตแข็งแรงและสามารถช่วยงานช่างไม้ได้หลายอย่าง
 
ตัจฉกสุกรเติบโตแข็งแรงและสามารถช่วยงานช่างไม้ได้หลายอย่าง
  
       “ ขอบใจมากลูกรักของพ่อ ขยันทำงานดีจริง ๆ น่ารัก ” วันหนึ่งมีเพื่อนบ้านแวะมาที่บ้านของช่างไม้นั้น เมื่อพวกเขาได้เห็นตัจฉกสุกร ก็คิดถึงเมนูอาหารจานใหญ่
พวกเขาหวังว่าจะได้กินเนื้อของมันในสักวัน “ โอ้โหเจ้าหมูตัวน้อยนั่น โตแล้วนี่ อ้วนดีจริง ๆ แล้วเมื่อไหร่เจ้าจะฆ่าเอาเนื้อมันมากินล่ะ กินตอนนี้กำลังดี เนื้อยังไม่เหนียว
ถ้าเจ้าฆ่าไม่ลงบอกพวกเรานะ เดี๋ยวมาช่วย ”
 
เพื่อนบ้านของช่างไม้ให้ความสนใจในตัวตัจฉสุกรเพราะต้องการกินมันเป็นอาหาร    

เพื่อนบ้านของช่างไม้ให้ความสนใจในตัวตัจฉสุกรเพราะต้องการกินมันเป็นอาหาร
 
       ช่างไม้เมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนบ้านกล่าวก็เกิดความหวั่นวิตก “ ลูกเอ๋ย พ่อเลี้ยงเจ้าไว้ที่นี่ต่อไป คงเกิดอันตรายกับเจ้าขึ้นแน่ ๆ ถ้าพ่อต้องออกไปตัดไม้แล้ว ใครจะอยู่กับเจ้า
ถึงตอนนั้นพวกชาวบ้านก็จะได้มาฆ่าเจ้าเอาไปทำแกงเป็นแน่ ๆ เฮ้อ นี่คงถึงเวลาที่เจ้าจะกลับไปบ้านของเจ้าที่แท้จริงแล้วสินะ ”

ช่างไม้นำตัวตัจฉกสุกรไปปล่อยคืนในป่าเพราะเกรงว่าเพื่อนบ้านจะเอาตัวมันไปฆ่าเป็นอาหาร
 
ช่างไม้นำตัวตัจฉกสุกรไปปล่อยคืนในป่าเพราะเกรงว่าเพื่อนบ้านจะเอาตัวมันไปฆ่าเป็นอาหาร
  
       เมื่อคิดได้ดังนั้น รุ่งเช้าช่างไม้จึงพาตัจฉกสุกรมาปล่อยไว้ในป่าดังเดิม “ ไปเถอะลูกเอ้ย ไปอยู่บ้านจริง ๆ ของเจ้า พ่อได้เลี้ยงเจ้าอย่างดีจนเติบใหญ่แข็งแรงแล้ว
บัดนี้เจ้าคงสามารถเอาตัวรอดในป่าใหญ่นี้ได้ โชคดีนะลูกพ่อ ” ตัจฉกสุกร เมื่อจากป่าไปตั้งแต่ยังเด็ก การใช้ชีวิตในป่าใหญ่นี้ด้วยตัวคนเดียวมันจึงยากนัก

ตัจฉกสุกรมีความกังวลว่ามันไม่สามารถที่จะอยู่ในป่าตัวเดียวได้เพราะมีอันตรายรอบด้าน
 
ตัจฉกสุกรมีความกังวลว่ามันไม่สามารถที่จะอยู่ในป่าตัวเดียวได้เพราะมีอันตรายรอบด้าน
 
       “ เราจะอยู่ในป่านี้แต่เพียงลำพังตัวเดียวได้อย่างไร ศัตรูสัตว์ใหญ่ ๆ เหล่านั้นมีมากมายนัก เราตัวคนเดียวคงสู้กับพวกมันไม่ได้ เห็นทีเราจะต้องเที่ยวค้นหาหมู่ญาติให้ได้
ญาติ ๆ ของเราเท่านั้นที่จะช่วยดูแลกันได้ ” ตัจฉกสุกรเดินเที่ยวเสาะหาฝูงหมูไปในป่าชัน พบหมูเป็นอันมากก็ดีใจ
 
ตัจฉกสุกรเดินตามหาฝูงหมูป่าจนเจอในที่สุด
 
ตัจฉกสุกรเดินตามหาฝูงหมูป่าจนเจอในที่สุด
 
       “ นั่นไง เจอแล้วหางเหมือนเรา จมูก ปาก เท้า หัว หู ทุกอย่างเหมือนเราหมดเลย สัตว์เหล่านั้นต้องเป็นญาติของเราแน่ ๆ ดูสิที่เห็นนี่ก็อุดมสมบูรณ์ มีทั้งน้ำ
ทั้งผลหมากรากไม้เยอะแยะ อยู่ที่นี่ต้องดีแน่ ๆ เลย ดีล่ะ เราจะไปขออยู่กับหมูเหล่านี้ ”

ฝูงหมูป่าได้บอกเล่าเรื่องของพญาเสือที่ออกไล่ล่าหมูป่าไปกินในทุก ๆ วัน แก่ตัจฉกสุกร
 
ฝูงหมูป่าได้บอกเล่าเรื่องของพญาเสือที่ออกไล่ล่าหมูป่าไปกินในทุก ๆ วัน แก่ตัจฉกสุกร
 
       “ ท่านทั้งหลาย เราขออยู่กับพวกท่านได้ไหม เรามาจากในหมู่บ้าน ถูกคนนำไปเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็ก บัดนี้เขาได้เอาเรามาไว้ในป่าดังเดิมแล้ว เราไม่สามารถอยู่ตัวเดียวได้
ขอเราอยู่กับพวกท่านได้ไหม ” “ ฮึ เจ้าคิดดีแล้วรึที่จะมาอยู่ที่นี่ เจ้าไม่รู้หรอกว่าที่นี่ มีศัตรูตัวร้าย มันคอยดักขย้ำพวกเราวันละตัว วันละตัว จนเทียบจะไม่เหลืออยู่แล้ว
หมูตัวไหนอ้วนสุด มันก็จะฆ่า เอาเนื้อไปกิน ตัวอ้วน ๆ อย่างเจ้านะ คงถูกมันฆ่าตั้งแต่วันแรกแล้วล่ะ ”
 
พญาเสือได้พักอาศัยอยู่ที่อาศรมของชฎิลโกงซึ่งชอบกินเนื้อหมูเป็นอาหาร
 
พญาเสือได้พักอาศัยอยู่ที่อาศรมของชฎิลโกงซึ่งชอบกินเนื้อหมูเป็นอาหาร
 
       “ ศัตรูที่ท่านว่าคือใคร มันเป็นใคร พวกท่านบอกเราหน่อยได้ไหม ” “ ก็เสือยังไงละ เจ้าเคยเจอไหมละ มันน่ากลัวมาก มีเขี้ยวแหลมคม เล็บของมันนะคมนัก
หากหมูตัวไหนโดนมันขย้ำแล้ว มีแต่ตายเท่านั้น ฮึย พูดแล้วก็ขนลุก เจ้าคิดดูสิ หมูอ้วน ๆ ขาสั้น ๆ อย่างเราจะวิ่งหนีมันทันได้อย่างไรกัน ” “ ทุกวันนี้ พวกเรา
อยู่กันด้วยความหวาดวิตก คอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ ตัวตลอดเวลา ชีวิตที่นี่มันไม่ปลอดภัยอย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ ”
 
ชฎิลโกงได้ใช้เสือให้ออกไปหาเนื้อหมูมาให้ตนกินเป็นอาหาร
 
ชฎิลโกงได้ใช้เสือให้ออกไปหาเนื้อหมูมาให้ตนกินเป็นอาหาร
 
       “ นั่นสิ เจ้าเสือนั่นน่ากลัวจะตาย แค่ได้ยินเสียงมันคำรามหัวใจข้าก็หล่นลงพื้นไปแล้ว ฮึย ” “ พวกท่านจะกลัวเสือตัวนั้นไปทำไม พวกเราไม่มีเขี้ยวหรือ กำลังกายไม่พรั่งพร้อมหรือ
พวกเราทั้งหมดพร้อมใจกันแล้ว ก็จะจับมันตัวเดียวเท่านั้นให้อยู่ในอำนาจได้ พวกท่านดูสิพวกเรามีทั้งหมดกี่ตัว แล้วแค่เสือตัวเดียว เราจะเอาชนะมันไม่ได้รึ พวกท่านจะอยู่อย่าง
หวาดกลัวทำไม ลุกขึ้นสู้สิ สั่งสอนให้เจ้าเสือนั่น รู้ว่าหมูอย่างพวกเราไม่ยอมให้ใครมารังแกกันได้ง่าย ๆ หรอกนะ ”
 
ฝูงหมูได้ขู่คำรามตอบกลับพญาไปโดยไม่มีความเกรงกลัวแต่อย่างใด
 
ฝูงหมูได้ขู่คำรามตอบกลับพญาไปโดยไม่มีความเกรงกลัวแต่อย่างใด
 
       ตัจฉกสุกรพูดสร้างกำลังใจเหล่าหมู ให้มีใจฮึกเหิมสู้กับศัตรูเจ้าเสือร้าย “ นั่นนะสินะ เราจะกลัวเจ้าเสือนั่นทำไม พวกเรามีมากกว่าตั้งเยอะตั้งแยะ ” “ เอาเถอะฉันจะสลัด
ความกลัวออกไป แล้วก็จะสู้กับมันสักครั้ง ”ตัจฉกสุกรกระทำพวกหมูทั้งหมดให้มีความสามัคคีเป็นใจเดียวกัน แล้ววางแผนกำจัดศัตรูเจ้าเสือร้าย “ พวกท่านทั้งหลายรุ่งเช้า
พรุ่งนี้ หากเจ้าเสือนั้นมา พวกเราจงช่วยกันสู้กับมัน ฉันมีแผนที่จะกำจัดมันอย่างง่ายดาย หมูทั้งหลายช่วยกันทำตามแผนนี้เถิด ”
 
พญาเสือตกใจกับพฤติกรรมของฝูงหมูที่เปลี่ยนไปไม่กลัวตนเหมือนอย่างแต่ก่อน
 
พญาเสือตกใจกับพฤติกรรมของฝูงหมูที่เปลี่ยนไปไม่กลัวตนเหมือนอย่างแต่ก่อน
 
       ตัจฉกสุกรนั้น ฉลาดในการรบรู้ชัยภูมิว่าตั้งในฐานที่ไม่อาจชนะได้ เหตุนั้นจึงตรวจดูประเทศแห่งหนึ่งแล้วให้พวกหมูหากินเสียแต่กลางคืน เมื่อกินกันจนอิ่มแล้ว หมูทั้งหลาย
ก็เริ่มวางกับดักตามแผนที่ตัจฉกสุกรวางไว้ พอถึงเวลาค่อนรุ่งก็จัดให้เหล่าหมูตั้งเป็นขบวนรบ เมื่อตัจฉกจัดการเรียบร้อยก็ประจวบกับเวลาพระอาทิตย์ขึ้น พญาเสือตัวนี้ได้อาศัย
อยู่ในอาศรมของชฎิลโกง ทุกเช้ามันจะต้องล่าเหยื่อ แล้วนำเนื้อเหล่านั้นมาเป็นอาหารของมันเอง และฤาษีนั้นด้วย
 
พญาเสือถอยล่าถอยกลับไปยังอาศรมด้วยความกลัวในฝูงหมูซึ่งมีมากกว่า
 
พญาเสือถอยล่าถอยกลับไปยังอาศรมด้วยความกลัวในฝูงหมูซึ่งมีมากกว่า
 
       “ ตื่นแล้วหรือพ่อเอ๋ย วันนี้ขอเนื้อหมูอีกนะ เอามาย่างแล้วมันอร่อย เนื้อหวานนักเชียว หือ คิดแล้วน้ำลายไหล ” “ ได้เลย เราเองก็ชอบเนื้อหมูเหมือนกัน ไปล่ะ พูดแล้วก็ชัก
จะหิวสะแล้ว ” พญาเสือตัวนั้นเดินไปยังที่อยู่ของเหล่าหมู ตามเดิมอย่างที่มันเคยทำทุกครั้ง “ นั้นไงท่าน ศัตรูที่พวกเรารออยู่มาแล้ว ” “ โอ๊โอ๋ นั่นไงอาหารของเรา เห็นอยู่ลิบ ๆ
นี่ออกมารอกันอยู่แต่เช้าเลยหรือนี่ แหม รู้หน้าที่จริง ๆ ดี ๆ จะได้ไม่ต้องเดินหาให้เหนื่อย ฮะฮ่าฮ่าฮ่า ” 

พญาเสือกลับมาอีกครั้งและได้พลัดตกลงไปในหลุมที่ฝูงหมูช่วยกันทำกับดักไว้
 
พญาเสือกลับมาอีกครั้งและได้พลัดตกลงไปในหลุมที่ฝูงหมูช่วยกันทำกับดักไว้
 
       “ พวกท่านอย่ากลัวไปเลย ครั้งนี้เราได้เตรียมแผนไว้เป็นอย่างดีแล้ว เมื่อเสือตัวนั้นมาถึง ไม่ว่ามันจะทำอาการใด พวกท่านจงทำตามมัน อย่าได้เกรงกลัวไปเลย ” ครั้งนั้นเมื่อพญาเสือ
เดินมาถึงฝูงหมู มันสะบัดร่างกายแล้วขู่คำราม เพื่อทำให้ลูกหมูเหล่านั้นกลัว แต่เหตุการณ์เปลี่ยนไป หมูเหล่านั้นไม่ได้มีทีท่ากลัวมันอย่างเดิม พวกมันกลับขู่กลับมา อย่างพร้อมใจสู้กัน
ทั้งฝูง “ เฮ้ย เป็นไงกลัวกันหัวหดเลยละสิ เฮอะ ๆ ๆ” “ เราไม่กลัวเจ้าหรอก ”
 
ตัจฉกสุกรได้กระโจนเข้าขวิดและกัดพญาเสือจนตายในที่สุด
 
ตัจฉกสุกรได้กระโจนเข้าขวิดและกัดพญาเสือจนตายในที่สุด
 
       “ เฮ้ย เจ้าหมูพวกนี้วันนี้มันดูแปลก ๆ ทำมันไม่กลัวเราเหมือนเมื่อก่อน เมื่อวานมันยังกลัวหัวหดวิ่งหางจุกตูดไปเลย ทำไมวันนี้พวกมันน่ากลัวจังวะเนี่ย ทำท่าเป็นศัตรูกับเราซะด้วย
เอ๊ะ หรือว่าพวกมันจะมีนายใหญ่คอยสั่งการเอาไว้ พวกนี้ได้แบ็กดี ท่าทางจะไม่ดี ถอยไปตั้งหลักก่อนดีกว่า ” วันนั้นเจ้าเสือโคร่งเมื่อเห็นพฤติกรรมของเหล่าหมูที่เปลี่ยนไปก็เกิดความกลัว
มันจึงรีบกลับไปยังอาศรม พญาเสือเมื่อกลับไปถึงอาศรมโดยไม่มีเนื้อกลับมาด้วยดังเก่า ก็สร้างความไม่พอใจให้แก่ดาบส
 
ฝูงหมูพากันวิ่งตรงมายังอาศรมของชฎิลโกงหลังจากที่ได้ฆ่าพญาเสือตายแล้ว
 
ฝูงหมูพากันวิ่งตรงมายังอาศรมของชฎิลโกงหลังจากที่ได้ฆ่าพญาเสือตายแล้ว
 
       “ อ้าวไหนละเนื้อหมู เจ้าไม่ได้เอามาด้วยดอกหรือ หรือว่า ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า นี่เจ้าหมดเขี้ยวเล็บแล้วหรือพญาเสือที่ดุร้าย วันนี้กลับกลายเป็นสุนัขน้อย ๆ น่าเอ็นดูไปแล้วหรือนี่ ฮะ ฮ่า ฮา ฮ่า
น่าขำยิ่งนัก เสือที่ดุร้ายอย่างเจ้า กลัวแม้กระทั่งฝูงหมูอย่างนั้นรึ หมูที่ไหนจะมาพร้อมใจกันทำร้ายเจ้าได้ ไปเถิด ไปเอาเนื้อหมูนั้นมานะ ” เสือโคร่งเป็นสัตว์มีเขี้ยว ถูกชฎิลผู้หยาบช้า
เห็นแก่อามิส ปลุกใจให้ฮึกเหิม สำคัญว่าจะทำได้เหมือนครั้งก่อน จึงวิ่งเข้าไปในฝูงสุกรผู้มีเขี้ยว แต่เหล่าหมูนั้นไม่ได้เกรงกลัวมันดังคำที่ฤาษีว่าไว้ พวกมันตั้งรับสู้ดังแผนที่เตรียมกันไว้
 
ชฎิลโกงรีบวิ่งหนีฝูงหมูเพราะรู้ได้ในทันทีว่าพญาเสือคงจะพลาดท่าฝูงหมูไปแล้ว
 
ชฎิลโกงรีบวิ่งหนีฝูงหมูเพราะรู้ได้ในทันทีว่าพญาเสือคงจะพลาดท่าฝูงหมูไปแล้ว
 
       “ มาเลยเจ้าเสือร้าย เราไม่กลัวเจ้าหรอก มาเลย โดดมาเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ” เสือโคร่งไม่สามารถยั้งความเร็วไว้ได้จึงไปตกในหลุมที่เป็นตะพักเหมือนกระด้ง แน่นอัดเหมือนฝ่อนหญ้า
ตัจฉกสุกรลุกขึ้นโดยเร็วเผ่นจากหลุมขบเขี้ยวลงตรงขั้วไส้ของมัน ขวิดขาดไปถึงหัวใจ กินเนื้อ แล้วเอาปากคาบเหวี่ยงไปนอกหลุมแบ่งให้หมูญาติของมันได้ลองลิ้มรสชาติของเสือบ้าง
แม้จะสามารถฆ่าศัตรูได้แล้ว แต่เหล่าหมูพวกนั้นก็ไม่ได้แสดงความยินดีเลย สร้างความสงสัยแก้ตัจฉกยิ่งนัก “ พวกท่านไม่ดีใจกันหรอกรึ นี่เราฆ่าเจ้าเสือร้ายนั่นได้แล้ว
ต่อไปนี้พวกเราก็จะอยู่กันอย่างมีความสุข ”
 
ชฎิลโกงได้วิ่งหนีฝูงหมูขึ้นไปอยู่บนต้นไม้
 
ชฎิลโกงได้วิ่งหนีฝูงหมูขึ้นไปอยู่บนต้นไม้
 
       “ นายเอ๋ย พวกเราเพียงจับเสือโคร่งได้ตัวเดียวเท่านั้น ก็เท่ากับพวกเราจับเสือโคร่งตัวที่ประทุษร้ายได้ตัวหนึ่ง แต่นอกจากนี้ ผู้ที่จะนำเสือโคร่งมาได้ยังมีอยู่ที่อาศรมนั่น มีชฎิลโกงอยู่
เขาเป็นผู้บงการให้สัตว์ร้ายในป่านี้มาทำร้ายเรา เมื่อไหร่ที่เจ้าชฎิลโกงยังอยู่ พวกเราก็ไม่สมารถอยู่กันอย่างสงบสุขได้หรอก ” “ ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็ไปฆ่ามันกันเถอะ กำจัดคนร้ายนั้น
ให้พ้นไป ไปเถอะ” กล่าวถึงชฎิลนึกว่าเสือโคร่งมัวช้าอยู่ มองดูมาทางของมัน เห็นพวกหมูเป็นอันมากกรูวิ่งมา ก็เกิดความกลัว รีบปีนขึ้นไปบนต้นมะเดื่อ “ เฮ้ย ๆ นั่น นั่น นั่นอะไร
วิ่งมาทางนี้ นั่นมันหมูนี่น่า โอ้ย ซวยแล้วเรา นี่เจ้าเสือโคร่งมันคงโดนฆ่าตายแล้วละสิ หนี หนี หนีดีกว่า อยู่ไม่ได้แล้วโว้ย ”
 
ชฎิลโกงโดนขวิดและถูกกัดกินจนตายหลังจากที่หล่นร่วงลงมาจากต้นไม้
 
ชฎิลโกงโดนขวิดและถูกกัดกินจนตายหลังจากที่หล่นร่วงลงมาจากต้นไม้
 
       เหล่าหมูเมื่อมาถึงอาศรมเห็นดาบสโกงปีนขึ้นไปหลบบนต้นไม้ ตัจฉกสุกรจึงเรียกหมูหนุ่ม ๆ มาให้ช่วยกันคุ้ยดินออกจากต้นไม้ ให้แม่หมูทั้งหลายไปอมน้ำมา ให้พวกหมูที่มีเขี้ยวใหญ่ ๆ
ช่วยกันขวิดรากโดยรอบ จนเหลือแต่รากแก้วที่หยั่งลงไปตรงรากเดียวเท่านั้น “ เอาล่ะ พวกท่านหลบก่อน เราจะทำให้ต้นไม้นี่ล้มลงมาเอง เสร็จแน่เจ้าฤาษีทุศีล ” ตัจฉกสุกรคุกเข่า
เอาเขี้ยวขวิดตรงรากแก้วขาดไปเหมือนฟันด้วยขวาน ต้นไม้นั้นก็พลิก “ เฮ้ย ๆ ๆ ๆ ล้ม ล้ม ล้มแน่ ๆ ใครก็ได้ช่วยที โอ้ย โอ้ย โอ้ย ” พอชฎิลโกงตกลงมาเท่านั้นพวกหมูก็พากันรับไว้
แล้วรุมกินเนื้อเสีย
รุกขเทวดาได้เห็นเหตุการณ์ที่ฝูงหมูหาวิธีการและทำการฆ่าชฎิลโกงได้ในที่สุด
 
รุกขเทวดาได้เห็นเหตุการณ์ที่ฝูงหมูหาวิธีการและทำการฆ่าชฎิลโกงได้ในที่สุด
    
       ครั้งนั้นได้มีรุกขเทวดาเห็นเหตุอัศจรรย์นั้นโดยทั้งหมด “ญาติทั้งหลายมีมากด้วยกัน ย่อมยังประโยชน์ให้สำเร็จ ถึงต้นไม้ทั้งหลายที่เกิดในป่าก็เหมือนกัน สุกรทั้งหลาย
พร้อมเพรียงกันเข้า ฆ่าเสือโคร่งเสียได้ เพราะประพฤติร่วมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน” หมูทั้งหลายช่วยกันฆ่าพราหมณ์และเสือโคร่งทั้งสองได้แล้ว ต่างร่าเริงบันเทิงใจ พากัน
บันลือศัพท์สำเนียงเสียงสนั่น หมูเหล่านั้นยกให้ตัจฉกสุกรเป็นพระราชา พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้วทรงประชุมชาดกว่า
 
 
 
ชฎิลโกงในครั้งนั้น ได้มาเป็นเทวทัต
ตัจฉกสุกรได้มาเป็น ธนุคคหติสสะ
ส่วนรุกขเทวดา เสวยพระชาติเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทิปิชาดก ชาดกว่าด้วยแพะกับเสือเหลืองทิปิชาดก ชาดกว่าด้วยแพะกับเสือเหลือง

ปัพพตูปัตถรชาดก ชาดกว่าด้วยอภัยโทษปัพพตูปัตถรชาดก ชาดกว่าด้วยอภัยโทษ

ขุรปุตตชาดก ชาดกว่าด้วยการทำตนให้ไร้ประโยชน์ขุรปุตตชาดก ชาดกว่าด้วยการทำตนให้ไร้ประโยชน์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

นิทานชาดก 500 ชาติ