อดีต ส.จ. ต้นบุญต้นแบบ ปิดบ่อนไก่ชน


[ 14 ธ.ค. 2550 ] - [ 18264 ] LINE it!

ผลการปฏิบัติธรรม

พระธรรมทายาทบรรเจิด อิทฺธิชโย (ประเทศไทย)
 
กราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูง
 
 
    กระผม พระธรรมทายาทบรรเจิด อิทฺธิชโย อายุ 53ปี ตอนเป็นฆราวาส คนสระบุรีเรียกกระผมว่า “ส.จ.เปี๊ยก” เพราะเคยเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี 4สมัย เป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 2สมัย และเคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ฯพณฯ สมชาย สุนทรวัฒน์ หนึ่งสมัย ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัทอโกรเมด (Agromed) จำกัด เป็นบริษัทฯที่นำเข้าผลิตภัณฑ์ยาสัตว์จากต่างประเทศ
 
 
    เมื่อปี พ.ศ.2547 กระผมได้ตัดสินใจปิดบ่อนไก่ชน ที่จังหวัดสระบุรี (ที่ทำรายได้อย่างมหาศาล) อันเนื่องมาจาก “คุณแม่ของผมท่านขอไว้” เรื่องราวของกระผมได้ถูกผู้นำบุญ คุณดรุณี โรจนศรีวิไล และ คุณหลี (คุณเพียรใจ โรจนศรีวิไล) เจ้าของห้างทวีกิจคอมเพล็กซ์ ขอทำเทปบันทึกภาพ เพื่อเป็นแบบอย่างต่อไป
 
    เหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้กระผมเข้ามาวัดพระธรรมกาย และได้เข้าไปกราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นสิ่งที่กระผมประทับใจมาก เหมือนได้กราบญาติผู้ใหญ่ที่กระผมเคารพ เพราะท่านมีบุคลิกทีนุ่มนวล หล่อ สง่างาม  สะกดจิต สะกิดใจ ให้กระผมคิดอะไรไม่ออก ไม่กล้าจะพูดสนทนา ได้แต่พูดคำเดียวว่า  “ครับ” พอท่านบอกว่า “ลูกต้องบวชนะ เพื่อปิดอบาย” กระผมไม่ได้คิดอะไร ตอบไปทันทีว่า “ครับ” กระผมก็พยายามบ่ายเบี่ยงผัดวันประกันพรุ่งอยู่ตลอดเลยครับ และนี่คือที่มาของเรื่องราวในวันนี้...
 
    ระยะเวลา 2-3ปี ที่ผ่านมา กระผมได้มีโอกาสเป็นต้นบุญต้นแบบในการปิดบ่อนไก่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดอุบลราชธานี และมีส่วนร่วมในการจัดการประชุม อปท. (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ทั่วประเทศที่วัด และยังเป็นเหตุผลที่หลีกเลี่ยงในการบวชอีก
 
    มีอยู่วันหนึ่ง เป็นการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เสร็จจากการประชุมมีการเลี้ยงอาหารมื้อพิเศษอย่างเลิศหรูราคาแพง ดื่มกินด้วยความเสียดาย (เพราะราคามันแพงมาก) มีอาการมึนเมา ขับรถถึงบ้านด้วยความยากลำบาก (เพราะง่วงมาก)
 
ทำให้มีความคิดขึ้นมาว่า “เรากำลังทำอะไรอยู่ เรื่องแบบนี้เราก็ลองมาหลายทีแล้ว แต่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นมาเลย”
เกิดความสังเวช คิดว่า “วันนี้เรารอดตายมาได้อย่างไร”
 
    ในเสี้ยววินาทีนั้น ได้ระลึกถึงคำของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และเป็นที่มาของการมาบวชใน โครงการ อบรมธรรมทายาท รุ่นผู้บริหาร เฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช พ.ศ.2550 ในใจของกระผมระลึกอยู่ว่า มีพระเดชพระคุณหลวงพ่ออยู่เสมอ จึงได้มีโอกาสเข้าขัดเกลาตัวเอง และที่ “หมู่บ้านบรรลุธรรม” ซึ่งใครตั้งชื่อให้ผมก็ไม่รู้ แต่ก็ทำให้ผมได้บรรลุธรรม ณ ที่นี้
 
    หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้มีโอกาสเข้าไปถวายปัจจัย บูชาธรรมกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ในวันอาทิตย์ต้นเดือน ในขณะที่ตั้งแถวรอถวาย (เจ้าหน้าที่ฝ่ายพิธีกรรมบอกว่า พอถวายแล้วไม่ให้ชวนพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุยนาน ให้รีบเดินเร็วๆ เพราะข้างหลังยังตามมาอีกยาว)
 
     แต่เมื่อได้พบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ กระผมก็ไม่ได้พูดอะไรเลย พระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นผู้พูดฝ่ายเดียว (ในท่าของเจมส์บอนด์ 072) ว่า “เอ้า...บวชแล้วเหรอ...ตั้งใจนะ หลวงพ่อจะคุมบุญให้เอง” แล้วพูดอีกเยอะแยะ กระผมก็พูดได้แต่อย่างเดียวว่า “ครับ” เต็มตื้นปลื้มมากเลยครับ กลับมาถึงหมู่บ้านบรรลุธรรม กระผมรู้สึกอิ่มเอิบใจ นึกถึงคำพูดของพระเดชพระคุณหลวงพ่ออยู่ตลอด นอนหลับสนิทเหมือนอยู่ในอู่ทะเลบุญ ตื่นขึ้นด้วยความสดชื่น
 
วันนั้น ตอนเช้ากระผมได้รับบุญขัดวิมาน ไม่รู้ว่าทำไมกระผมถึงได้ตั้งใจทำความสะอาดขัดทุกซอกทุกมุม ทั้งล้างทั้งควัก ทั้งล้วงทั้งลึกยิ่งลึกยิ่งสว่าง รับบุญไปด้วยจิตใจที่เบิกบาน พอถึงเวลานั่งสมาธิ รู้สึกว่าวันนี้ตัวเบาสบายอย่างบอกไม่ถูก ทุกอย่างลงตัวนิ่งสนิทเหมือนกัน พักใหญ่ท่ามกลางความมืด กระผมเห็นมีจุดประกายไฟเล็กๆ แล้วก็ มีความสว่างใส เป็นดวงเหมือนดวงดาวเปล่งประกายสุกใส อยู่ที่กลางท้องของกระผม
 
กระผมมีความรู้สึกปลื้มปีติมากเลยครับ จนน้ำตาไหล ตัวเบา โปร่งโล่งสบาย มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก แบบไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิต เมื่อได้ขึ้นมาปฏิบัติธรรมบนสวนพนาวัฒน์ กระผมได้พบประสบการณ์ภายในเช่นนี้อีกถึง 2ครั้ง กระผมมีความสุขมากๆเลยครับ
 
แต่กระผมอยากกราบเรียนถาม พระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า “บางรอบกระผมนั่งแล้ว ทำไมถึงหายใจไม่ค่อยออกเลยครับ ลมหายใจสั้นลง จนแทบจะหมดลมหายใจ เหมือนกำลังจะตายแต่ก็ไม่ตายครับ
 
[คุณครูไม่ใหญ่-อาการหายใจไม่ค่อยออกดังกล่าว เป็นอาการของใจที่ละเอียดเป็นสมาธิอีกระดับหนึ่ง ที่จะเปลี่ยนวิธีการหายใจ จากหายใจด้วยลมหยาบๆ (มนุษย์ทั่วๆไปจะหายใจด้วยลมหยาบ) มาหายใจด้วยลมละเอียด...แต่เราไม่คุ้นเคย...นั่งสมาธิไม่เคยทำให้ใครตาย คนจะตายต้องหมดอายุขัย หมดบุญ วิบากกรรมมาตัดรอน เพราะฉะนั้น ถ้านั่งสมาธิแล้วมีอาการอย่างนี้ ให้ใช้คำของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯที่ว่า “ฟ้าจะถล่ม แผ่นดินจะทลาย คอขาดบาดตาย...ช่างมัน”]
 
(หมายเหตุ เรียบเรียงจากคำตอบของคุณครูไม่ใหญ่ในรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2550)
 
    ท้ายที่สุดนี้ กระผมขอสัญญาว่า เมื่อสิ้นสุดโครงการอบรมนี้แล้ว กระผมจะเป็นผู้หนึ่งที่จะเป็นกำลังหลักสำคัญ ในการเผยแผ่พุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย อย่างเต็มที่เต็มกำลัง ตราบเท่าที่กระผมยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ และขอให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อ จงใสปิ๊ง (เป็นเจมส์บอนด์ 072 ของกระผมตลอดไป) ขอให้ขาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจงหายวันหายคืน  เดินเหินไปที่ไหน มีความสดชื่นแข็งแรง หล่อตลอดกาล จนถึงที่สุดแห่งธรรมเลยครับ พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ...กระผม Love...Love...Love พระเดชพระคุณหลวงพ่อที่สุดเลยครับ
 
ขอกราบคารวะด้วยความเคารพอย่างสูง
 
พระธรรมทายาทบรรเจิด อิทฺธิชโย
 



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
จดหมายจากฮาวายจดหมายจากฮาวาย

จงถอนวัชพืชแห่งความสงสัยออกจงถอนวัชพืชแห่งความสงสัยออก

ความสุขจากการหยุดนิ่งความสุขจากการหยุดนิ่ง



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ