สัมมา อะระหัง คือ เนื้อมนต์วิเศษโดยแท้
บทความจากหนังสือ บวช..เพื่อให้ชีวิตดี๊ดี
บางคนจากที่เคยพบอุปสรรคทำอะไรติด ๆ ขัด ๆก็ราบรื่นขึ้น จะทำมาค้าขายก็ร่ำรวยขึ้นซึ่งเกิดจากอานุภาพบารมีธรรมที่หลวงปู่ท่านปกป้องคุ้มครองและกลั่นแก้ให้ประกอบกับอานุภาพของเนื้อมนต์ คือ การภาวนา ‘สัมมา อะระหัง’ ควบคู่กันไปด้วยนั่นเอง
ในสมัยที่หลวงปู่วัดปากน้ำ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ท่านยังมีชีวิตอยู่ หากมีคณะสาธุชนเข้าไปกราบขอบารมีหลวงปู่แล้ว จะมีบางคนขอให้หลวงปู่รดน้ำมนต์ให้ด้วยซึ่งหลวงปู่ก็จะย้อนถามว่า จะเอาน้ำมนต์หรือจะเอาเนื้อมนต์ ถ้าเอาเนื้อมนต์ก็ต้อง “สัมมา อะระหัง” จากนั้นหลวงปู่ก็สอนให้ทุกคนนั่งภาวนา ซึ่งปรากฏว่า ต่างพบอานุภาพอันมหัศจรรย์กันถ้วนหน้า คือ บางคนเจ็บป่วยก็หายขาดโดยไม่ต้องใช้ยา บางคนจากที่เคยพบอุปสรรคทำอะไรติด ๆ ขัด ๆ ก็ราบรื่นขึ้น จะทำมาค้าขายก็ร่ำรวยขึ้น ซึ่งเกิดจากอานุภาพบารมีธรรมที่หลวงปู่ท่านปกป้องคุ้มครองและกลั่นแก้ให้ ประกอบกับอานุภาพของเนื้อมนต์ คือ การภาวนา “สัมมา อะระหัง” ควบคู่กันไปด้วยนั่นเอง
ดังนั้นจึงถือเป็นสูตรทีเดียวว่า ถ้าจะอธิษฐานขอบารมีหลวงปู่ให้ท่านคุ้มครองหรือช่วยเหลือเรื่องใดก็ตาม ผู้ขอก็ต้อง “สัมมา อะระหัง” ควบคู่ไปด้วย แล้วผลจะสัมฤทธิ์โดยรวดเร็วดังเรื่องราวตัวอย่างของผู้ปฏิบัติจริงต่อไปนี้
“สัมมา อะระหัง” เป็นคำที่พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ใช้สำหรับบริกรรมภาวนาในการบำเพ็ญสมณธรรมผู้ปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิกัมมัฏฐานตามนัยของหลวงปู่ อาศัยคำภาวนานี้ บริกรรมประกอบกับน้อมนำใจมาไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เมื่อใจหยุดถูกส่วนเข้าก็จะเข้าถึงธรรมกายได้
คำว่า “สัมมา อะระหัง” นี้เป็นบทพระพุทธคุณที่เราใช้ท่องกันอยู่ประจำ “สัมมา” เป็นศัพท์ที่มีความหมายสูง แปลว่า ชอบในพระพุทธคุณ 9 บท ท่านเอาศัพท์นี้เข้าคู่กับ สัมพุทโธ เป็นสัมมาสัมพุทโธ แปลว่า ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ
นอกจากใช้ในบทพระพุทธคุณแล้ว ยังมีใช้ในองค์อริยมรรค 8 ด้วย โดยมีคำว่า สัมมา ควบองค์มรรคอยู่ทุกข้อ เป็นสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ เป็นต้น ส่วนศัพท์ คำว่า อะระหัง เป็นพระพุทธคุณบทต้น แปลว่า พระพุทธองค์ทรงเป็นพระอรหันต์
เมื่อเข้าคู่กันเป็น “สัมมา อะระหัง” ก็แปลว่า พระพุทธองค์ทรงเป็นพระอรหันต์โดยชอบ คือ ถูกต้อง ไม่ผิด โดยนัยว่าบทบริกรรม “สัมมา อะระหัง” ของหลวงปู่วัดปากน้ำ จึงมีความหมายสูงและอยู่ในขอบข่ายของพุทธานุสติโดยแท้
พระโบราณาจารย์ทั้งหลายกล่าวว่า “สัมมา อะระหัง” เป็นพุทธานุสติ มีประโยชน์ในการเจริญภาวนากัมมัฏฐานมากดังที่ท่านได้อธิบายว่า
“พุทธานุสติ เป็นธรรมประการต้นที่หลวงปู่วัดปากน้ำสนใจปฏิบัติ และสอนสานุศิษย์เป็นพิเศษ ทุกครั้งที่ปฏิบัติธรรมจะต้องตั้งใจระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ เพราะพุทธานุสตินั้นเป็นธรรมให้จิตตื่น ให้จิตสว่าง ให้จิตมีกำลัง ให้จิตมีความกล้าที่จะปฏิบัติธรรมสืบต่อไป เป็นวิสัยอันดีของพุทธศาสนิกชนทั่วไป
ธรรมดาบุคคลเราถ้าไม่มีอะไรที่พึงยึดแล้ว จิตย่อมคอยแต่จะฟุ้งซ่าน จะทำให้สงบอยู่ไม่ได้ จิตจึงต้องมีพุทธคุณยึด เมื่อมีพุทธคุณยึดแล้ว จะหลับก็ตาม จะตื่นก็ตาม จิตย่อมอยู่ในการรักษาทั้งนั้น เพราะพุทธานุภาพย่อมรักษาคนที่มีสติ ระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์อยู่เป็นนิตย์
ดังพุทธภาษิตว่า.....
สุปฺปพุทธํ ปพุชฺฌนฺติ สทา โคตมสาวกา
เยสํ ทิวา จ รตฺโต จ นิจฺจํ พุทฺธคตา สติ
สติของชนเหล่าใดไปแล้วในพระพุทธเจ้าเป็นนิตย์ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน ชนเหล่านั้นเป็นสาวกของพระโคดม ตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ
ธัมมปทัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย คาถาธรรมบท
เล่ม 43 หน้า 172, มก.
ความสุขที่หยุดได้ ในกลาง
เป็นสุขสุดตามทาง พุทธเจ้า
สะอาดสงบสว่าง พราวแผ้ว
หยุดนิ่งทุกค่ำเช้า จักได้สุดธรรม