เกือบตาย!! หากไม่ยอมบวช : พระทวี เตชโสตฺถิโก


[ 13 มิ.ย. 2558 ] - [ 18264 ] LINE it!

เกือบตาย!! หากไม่ยอมบวช

บทความจากหนังสือ บวช..เพื่อให้ชีวิตดี๊ดี
 
พระทวี เตชโสตฺถิโก อายุ 28 ปี อุปสมบทที่วัดพิพิธประสาทสุนทร จังหวัดฉะเชิงเทรา
ในโครงการบวชพระหนึ่งแสนรูปทุกหมู่บ้านทั่วไทย รุ่นเข้าพรรษา

    พระทวี เตชโสตฺถิโก อายุ 28 ปี ก่อนบวชทำอาชีพรับซื้อของเก่ากับโยมพ่อ ได้อุปสมบทที่วัดพิพิธประสาทสุนทร จังหวัดฉะเชิงเทราในโครงการบวชพระหนึ่งแสนรูปทุกหมู่บ้านทั่วไทย รุ่นเข้าพรรษา

    ..หากย้อนไปก่อนหน้านี้สักหน่อย ก็แทบจะไม่เชื่อเลยว่าคนอย่างอาตมาจะมาบวชกับเขาได้ เพราะเคยมีชีวิตเหลวแหลกเป็นไอ้ขี้เหล้าโมโหร้ายคนหนึ่ง กินแต่เหล้าจนไม่มีเงินกินข้าวเพราะทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือสตางค์แค่ 2 บาท ก็เลยไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะโทรบอกน้องสาวว่า พี่ไม่มีเงินแล้ว ให้เอาข้าวมาให้กินหน่อย และทันใดนั้นเอง... ก็เหลือบไปเห็นโปสเตอร์ชวนบวชพระรุ่นเข้าพรรษาแสนรูปที่ติดอยู่ในตู้โทรศัพท์ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร

     จนกระทั่งกลับมาถึงบ้าน ก็มานั่งซดเหล้าต่อ เมาโวยวาย จนน้องสาวโมโหมาก หันมาบอกว่าให้ไปบวชซะ เผื่อชีวิตมันจะดีขึ้น อาตมาก็บอกว่า รู้จากโปสเตอร์ที่เขาแปะอยู่ที่ตู้โทรศัพท์แล้ว แต่ไม่บวชหรอก น้องสาวก็ตอบกลับว่า ทีทหารลำบากกว่านี้เป็น 100 เท่า ทำไมเป็นอยู่ได้ตั้ง 2 ปี แค่บวช 3-4 เดือน ทำไมทำไม่ได้ ส่วนเรื่องลูกพี่ก็ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจะเป็นภาระจัดการให้ทุกอย่าง

     ตอนนั้นอาตมาตวาดน้องสาวไปว่า ไม่บวช ยังไง ๆ ก็ไม่บวช.. คือ เราคุยกันอย่างกับอภิมหาสงครามดุเดือดเลือดพล่าน แต่แล้วก็คุยกันไม่รู้เรื่อง อาตมาก็เลยประชดหยิบเชือกร้อยเป็นบ่วงพอดีคอ พร้อมจะรัดคอตาย และก็บอกน้องสาวไปว่า หากให้กูบวช..กูผูกคอตายซะดีกว่า

    เมื่อน้องสาวฟังดังนั้น..!! แทนที่จะตกใจห้าม เปล่าเลย...เธอไม่รอช้า รีบจับหัวอาตมากดยัดลงไปในบ่วงผูกคอนั้น แล้วก็ตะโกนใส่ว่า อยากตายมากนักใช่ไหม ตายเลย...ย..ย.. ตายซะให้เสร็จ ๆ ไป... ทำไมให้ทำดีถึงไม่อยากทำ พอสักครู่น้องสาวเห็นอาตมาท่าไม่ดี เขาก็ผ่อนมือออก แล้วก็บอกว่า ที่ยอมมีชีวิตที่ลำบากเป็นภาระให้ทุกเรื่อง ก็เพราะเป็นห่วงพี่ รักพี่มาก ไม่อยากให้ใครมาดูถูกพี่ น้องสาวอาตมาชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูด จนมีคนมาห้ามว่า ถ้าพี่เขาไม่บวช ก็อย่าไปบังคับเขาเลย น้องอาตมาโต้กลับไปว่า ไม่ได้บังคับ ก็แค่พูดให้เข้าใจเท่านั้น จนสุดท้ายอาตมาก็ทนความปรารถนาดีอย่างแรงกล้าหัวชนฝาของน้องสาวไม่ไหว ก็เลยยอมบวชซึ่งงานนี้ต้องยกความดีความชอบให้น้องสาว ตอนที่ฆฏิการะชวนโชติปาละให้ไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังแค่ดึงมวยผม แต่โยมน้องสุดเลิฟของอาตมานี่เล่นเอาหัวอาตมายัดกดบ่วงรัดคอเกือบตายเลย

    ด้วยเหตุนี้.. อาตมาจึงขอยกให้เธอเป็นสุดยอดกัลยาณมิตรแห่งปี อยากทราบไหมว่าเธอชื่ออะไร เธอชื่อเหมือนนางงามจักรวาลผู้มีใจอ่อนโยน ชื่อ “ปุ๋ย”...

     และแล้ว..วันที่ดีที่สุดของครอบครัวอาตมาก็มาถึง คือวันขอขมาลาโทษพ่อแม่พี่น้องก่อนจะบวช ซึ่งขณะที่ทุกคนมากันพร้อมหน้า พออาตมาก้มลงกราบแล้วเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละพ่อแม่พี่น้องทุกคนร้องไห้กันหมดเลย ทำเอาอาตมาแทบจะกล่าวคำขอขมาไม่ได้ เพราะร้องไปด้วย มันเต็มตื้นขึ้นมาจุกอยู่ที่คอรู้สึกเหมือนกับว่าที่ผ่านมา อาตมาทำบาปกับเขาไว้มาก

     จนกระทั่งมาถึงวันนี้ อาตมารู้สึกว่า โอกาสในการแก้ตัวมาถึงแล้วที่จะทำตัวใหม่ให้ทุกคนได้ภูมิใจ พออาตมาได้บวช ก็รู้สึกเหมือนตัวเองได้เกิดใหม่ บนโลกใบใหม่ และก็รู้สึกดีเหลือเกินกับการเกิดใหม่แบบนี้ เพราะมีความสุขในผ้าเหลืองอย่างบอกไม่ถูก เพราะทั้งชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยสงบอะไรแบบนี้มาก่อน รู้สึกตัวเองเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากใจร้อนโผงผางโวยวาย เดี๋ยวนี้รู้แต่ว่า ไม่อยากทำอย่างนั้นไปซะเฉย ๆ เพราะพึงพอใจกับชีวิตที่สงบ เรียบง่าย
 

    การบวชทำให้อาตมาได้นั่งสมาธิเยอะมาก พอนั่งมากเข้า ๆ ใจก็เริ่มสงบ จนกระทั่งเห็นดวงสว่าง และเห็นองค์พระอยู่กลางตัวเรา เป็นความสุขที่ทางโลกเทียบไม่ได้เลย จนอยากจะพูดออกมาว่า เป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุดในชีวิต จนรู้สึกมีกำลังใจสู้ชีวิตอย่างเหลือเฟือ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

     แม้การบวชจะลำบากสักหน่อย เพราะต้องฝึกตน ทนหิวบำเพ็ญตบะ ต้องพัฒนาวัดและทำอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่เมื่อเทียบกับตอนที่เป็นทหารแล้ว ต่างกันลิบลับ เพราะตอนเป็นทหารหากคุยกันในแถวกินข้าวหรือทำอะไรไม่พร้อมกันแม้แต่นิดเดียวก็โดนเตะแล้ว บางทีก็โดนให้ซ่อมหนัก ๆ แต่มาอบรมครั้งนี้ยังไม่เคยโดนเตะเลย

    กิจกรรมที่อาตมาสนใจที่สุด ในการบวชครั้งนี้ คือ การเดินธุดงค์ เพราะปัจจุบันเราแทบจะไม่เห็นพระธุดงค์เลยอาตมาจึงอยากเดินมาก พอได้เดินแล้ว ก็ได้ข้อคิดอะไรเยอะมาก ได้ฝึกความอดทน ฝึกสติ ได้ประกาศศาสนา ได้โปรดญาติโยม รู้สึกประทับใจมาก

    หลังจากจบโครงการแล้ว อาตมาก็ยังไม่อยากสึก เพราะเกิดอุดมการณ์อยากจะช่วยฟื้นฟูพระพุทธศาสนา รู้สึกว่าเราเข้ามาพึ่งพระศาสนาแล้ว เราก็อยากให้พระศาสนาได้พึ่งเราบ้างจึงเข้าโครงการไปพัฒนาวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง ทำวัดที่รุ่งแล้วให้เป็นวัดที่รุ่งยิ่ง ๆ ขึ้นไป ซึ่งอาตมาก็ได้ย้ายมาอยู่ที่วัดจุกกะเฌอจ.ชลบุรี

     อาตมาได้มาพัฒนาวัด ช่วยเขาปูกระเบื้อง ชวนญาติโยมมาช่วยกันเอาบุญ ทำพื้นไว้สำหรับให้ญาติโยมมานั่งสมาธิและก็ช่วยเป็นพระอาจารย์ในโครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนล้านคนทั่วประเทศคือ อยากจะให้วัดแห่งนี้กลายเป็นศูนย์รวมใจของชาวบ้านละแวกนี้อีกครั้ง เผื่อมีชาวบ้านที่มีอดีตอย่างอาตมา เขาก็จะได้มีโอกาสเข้ามาบวช เข้ามาปฏิบัติธรรมในวัดนี้ แล้วเปลี่ยนเป็นคนดีของสังคม อาตมาก็จะได้บุญไปกับเขาด้วย

    อาตมารู้สึกว่า ชีวิตนักบวชต่างกับตอนเป็นฆราวาสราวฟ้ากับเหว รู้สึกสงบสุข และก็ได้ทำตนให้เป็นประโยชน์ รู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งโยมพ่อ โยมแม่ และญาติ ๆ ยิ่งปลื้มกับอาตมามาก เมื่อเขารู้ว่าอาตมาบวชต่อ คือ เขาก็ปลื้มจนน้ำตาไหล ดีใจกันมาก เพราะจากเดิม..เขาไม่เชื่อว่าคนอย่างอาตมาจะบวชได้แต่พอบวชแล้วยังอยู่ช่วยงานพระศาสนาต่อ เขาจึงดีใจกันใหญ่

    สุดท้ายนี้อาตมาอยากจะฝากข้อคิดว่า เราอย่าเพิ่งคิดว่าการบวชเป็นเรื่องเล่น ๆ หรือให้ประโยชน์อะไรเราไม่ได้มากเพราะก่อนหน้านี้ อาตมาก็คิดแบบนี้มาก่อน และก็ไม่ยอมบวชท่าเดียว แต่พอมาบวชเข้าจริง ๆ

    มันไม่ใช่แค่บวชเพื่อให้พ่อแม่สบายใจเพราะนอกจากตัวเราจะได้บุญมากแล้วยังทำให้เราพบคุณค่าแห่งชีวิตแบบที่เราจะไม่มีทางหาได้จากที่ไหนเลยจริง ๆ ...



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ผู้ที่จะเข้าถึงพระพุทธศาสนาผู้ที่จะเข้าถึงพระพุทธศาสนา

ใครทำใครได้ใครทำใครได้

คบคนดีเป็นศรีแก่ตัวคบคนดีเป็นศรีแก่ตัว



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ธรรมะสอนใจ