ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2555
Case Study กรณีศึกษากฎแห่งกรรมมหาเสนาบดี ผู้ยิ่งใหญ่ ตอนที่ 18(เกริ่นนำและสรุปความเดิม)เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปราลูกๆ นักเรียนอนุบาลฝันในฝันคงจะจำเรื่องราวของท่านมหาเสนาบดี ซึ่งเป็นบุคคลระดับตำนานกันได้ ซึ่งที่ผ่านมาพวกเราได้รับฟังเรื่องราวของท่านไปแล้ว 17 ตอน ก่อนที่เราจะมาติดตามรับชมและรับฟังเรื่องราวของท่านมหาเสนาบดีกันต่อนั้น เรามาทบทวนเรื่องราวของท่านกันก่อนสักหน่อย เพื่อเป็นการทบทวนความจำ และเพื่อที่ลูกๆ นักเรียนอนุบาลฯ ที่มาในภายหลังจะได้ตามกันทันท่านมหาเสนาบดีเป็นบุคคลในระดับตำนานความเดิมจากตอนก่อนหน้านี้ นักเรียนเก่าคงจำกันได้ว่าในพุทธันดรที่ผ่านมา ท่านมหาเสนาบดีของพวกเรา ได้เกิดอยู่ในตระกูลของข้าราชการระดับสูง หรือขุนนางชั้นผู้ใหญ่ และเมื่อท่านมหาเสนาบดีเติบใหญ่ขึ้น ตัวท่านก็ได้ตัดสินใจเดินตามความฝันที่ตัวท่านได้ตั้งใจเอาไว้ ด้วยการไปศึกษาวิชาทหารในโรงเรียนเตรียมทหารประจำแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวชท่านมหาเสนาบดีเคยเกิดในตระกูลข้าราชการระดับสูง เมื่อท่านเติบใหญ่ขึ้นก็ได้ไปศึกษาวิชาทหารประจำแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวชซึ่งภายหลังจากที่ท่านมหาเสนาบดีได้เข้าไปอยู่ในโรงเรียนเตรียมทหารแล้ว ท่านก็ได้ตั้งใจฝึกฝนร่ำเรียนวิชาทหารด้วยความขยันหมั่นเพียร ขะมักเขม้น มุมานะ และเอาจริงเอาจัง ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ท่านสามารถเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติได้อย่างแตกฉานในทุกๆ วิชา อีกทั้งผลคะแนนการเรียนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติของท่านยังพุ่งไปสู่ระดับสูงสุดของรุ่น หรือเป็น แชมป์ อ๊อฟ แชมป์ อีกด้วยและด้วยความที่ท่านมหาเสนาบดีมีผลการเรียนอยู่ในระดับ แชมป์ อ๊อฟ แชมป์ นี้เองจึงทำให้ตัวท่านได้รับการคัดเลือกให้ไปอยู่ในหลักสูตรการฝึกทหารชุดพิเศษ ซึ่งทหารหน่วยนี้ จะถูกฝึกและหล่อหลอมเพื่อในอนาคตจะได้ขึ้นเป็นระดับหัวหน้าของทหารหน่วยต่างๆ ในกองทัพ ที่จะทำหน้าที่ควบคุมกำลังพลสำคัญๆ และจะต้องทำงานรับใช้ใกล้ชิดว่าที่พระราชาองค์ต่อไป ซึ่งก็คือพระราชโอรสในตอนนี้ หรือพระราชาองค์ที่ออกบวช ด้วยความซื่อสัตย์และจงรักภักดี ชนิดที่เรียกว่า “ยอมตายแทนพระราชา” ได้เลยทีเดียวตัวท่านได้รับการคัดเลือกให้ไปอยู่ในหลักสูตรการฝึกทหารชุดพิเศษในระหว่างที่ท่านมหาเสนาบดีกำลังฝึกอยู่ในหลักสูตรการฝึกทหารชุดพิเศษนั้น ตัวท่านก็มีโอกาสได้ทำความรู้จักและคุ้นเคยกับพระราชโอรส หรือพระราชาองค์ที่ออกบวช มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ท่านมหาเสนาบดีและพระราชโอรสมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันอย่างที่สุด นั่นก็คือการร่วมกันชิงช่อดอกไม้มงคลในงานเทศกาลฉลองประจำปี ซึ่งจัดขึ้นที่หัวเมืองที่ท่านมหาเสนาบดีอาศัยอยู่นั่นเองท่านมหาเสนาบดีมีโอกาสได้ทำความรู้จักและคุ้นเคยกับพระราชโอรส หรือพระราชาองค์ที่ออกบวช มากขึ้นเรื่อยๆภายหลังจากที่ท่านมหาเสนาบดีได้สำเร็จการศึกษาแล้ว ท่านก็ได้รับคำสั่งด่วนพิเศษให้ไปประจำการอยู่ที่หน่วยทหารในหัวเมืองแห่งหนึ่ง ในทันทีที่ตัวท่านถูกคัดเลือกให้ไปประจำการอยู่ที่หัวเมืองดังกล่าวนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะที่หัวเมืองแห่งนั้น กำลังประสบปัญหาเรื่องมีกลุ่มโจรคอยดักปล้นผลผลิตทางการเกษตรของพวกชาวบ้านอยู่เป็นประจำ อีกทั้งที่หัวเมืองแห่งนั้น ยังเกิดความขัดแย้งระหว่างพวกชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ของทางการอีกด้วยท่านมหาเสนาบดีได้รับคำสั่งด่วนพิเศษให้ไปประจำการอยู่ที่หน่วยทหารในหัวเมืองแห่งหนึ่งด้วยเหตุนี้เอง นายทหารชั้นผู้ใหญ่ในกองทัพ จึงต้องคัดเลือกบุคคลที่มีสติปัญญาความสามารถ และมันสมองระดับหัวกะทิอย่างท่านมหาเสนาบดี ให้เข้าไปช่วยคลี่คลายและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในหัวเมืองแห่งนั้นและเมื่อท่านมหาเสนาบดีได้ไปประจำการอยู่ที่หัวเมืองดังกล่าวแล้ว ท่านก็ได้สืบจนทราบความจริงว่า “ที่ผ่านมาได้มีการติดสินบนว่าจ้างกันในกองทหาร โดยมีพวกพลทหาร ที่มีเชื้อพาล ได้ออกไปหาลำไพ่พิเศษหรือรายได้พิเศษ ด้วยการปลอมตัวเป็นโจรออกปล้นพวกชาวบ้าน”ท่านมหาเสนาบดีก็ได้สืบจนทราบความจริงซึ่งหลังจากที่ท่านมหาเสนาบดีและเพื่อนนายทหารของท่าน ได้ช่วยกันวางสายสืบเข้าไปในกลุ่มของพวกพลทหารแล้ว ตัวท่านก็สามารถสาวไปจนรู้ว่า “มีนายทหารคนไหนบ้างที่อยู่ในขบวนการทุจริตคอรัปชั่นนี้” และเมื่อท่านมหาเสนาบดีได้ทราบรายชื่อของพวกนายทหารที่เป็นสมาชิกในกลุ่มขบวนการทุจริตคอรัปชั่นแล้ว ท่านก็ได้จัดการส่งรายชื่อของพวกนายทหารเหล่านั้นไปให้กับทางศาลทหาร เพื่อตัดสินความผิดกับพวกนายทหารเหล่านั้นในทันที ซึ่งก็ส่งผลทำให้สถานการณ์โดยรวมภายในหัวเมืองแห่งนั้นค่อยๆ มีสภาพที่ดีขึ้นแต่ในเวลาต่อมา ก็ได้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นภายในหัวเมืองแห่งนั้น คือหัวเมืองที่ท่านมหาเสนาบดีได้ประจำการอยู่ เพราะได้มีพวกชาวบ้านพากันมาก่อม็อบร้องเรียนเรื่องการจัดสรรที่ดินทำกิน ที่ทางการจัดสรรให้อย่างไม่เป็นธรรม เมื่อเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นเช่นนี้ ก็เลยทำให้มีข้าราชการระดับสูงท่านหนึ่งได้ถวายฎีกาไปยังพระราชา หรือพระราชบิดาของพระราชาองค์ที่ออกบวช ให้ทรงเมตตามาช่วยตัดสินคดีความในครั้งนี้พวกชาวบ้านพากันมาก่อม็อบร้องเรียนเรื่องการจัดสรรที่ดินทำกิน ทำให้มีข้าราชการระดับสูงท่านหนึ่งได้ถวายฎีกาไปยังพระราชาและเมื่อพระราชาทรงทราบเรื่องดังกล่าวนี้แล้ว พระองค์ก็ทรงรู้สึกร้อนพระทัยเป็นอย่างมาก ที่พระองค์ทรงมีความรู้สึกเช่นนี้นั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะพระองค์ทรงเกรงว่า ถ้าไม่รีบจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้เรียบร้อยโดยเร็ว ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นภายในเขตหัวเมืองแห่งนั้นได้ อีกทั้งหัวเมืองแห่งนั้นก็เป็นหัวเมืองชายแดนสำคัญที่อยู่ติดกับแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือ หรือแคว้นของพระราชบิดาของพระราชาเกะกะเกเรอีกด้วย เพราะฉะนั้น จึงถือว่าเป็นจุดเปราะบาง และอาจจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของแคว้นในอนาคตและด้วยความรู้สึกร้อนพระทัย อยากที่จะรีบจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุดนี้เอง พระราชาจึงทรงรับสั่งให้พระราชโอรสหรือพระราชาองค์ที่ออกบวช เป็นตัวแทนของพระองค์ ในการเสด็จเดินทางไปยังหัวเมืองชายแดนแห่งนั้น เพื่อไปทำหน้าที่ตัดสินคดีความสำคัญในครั้งนี้พระราชาทรงรับสั่งให้พระราชโอรสหรือพระราชาองค์ที่ออกบวช เป็นตัวแทนพระองค์ในการเสด็จเดินทางไปยังหัวเมืองชายแดนแห่งนั้นเมื่อพระราชาได้ทรงรับสั่งกับพระราชโอรสเช่นนั้นแล้ว ทางส่วนกลางก็ได้เรียกตัวท่านมหาเสนาบดี ซึ่งกำลังประจำการอยู่ที่หัวเมืองชายแดนดังกล่าว ให้เดินทางกลับมายังเมืองหลวงโดยด่วน เพื่อมาทำหน้าที่คุ้มกันพระราชโอรสในการเสด็จเดินทางไปยังหัวเมืองชายแดนแห่งนั้น พร้อมทั้งทำหน้าที่ประสานงานในการสอบสวนคดีความร่วมกับพระราชโอรสอีกด้วยเมื่อพระราชโอรสและท่านมหาเสนาบดี ได้เดินทางไปถึงหัวเมืองชายแดนแห่งนั้นแล้ว พระราชโอรสและท่านมหาเสนาบดี ก็ได้ดำเนินการสอบสวนพวกข้าราชการที่ดูแลหัวเมืองแห่งนั้นอย่างจริงจัง จนทำให้ตัวท่านเจ้าเมืองซึ่งยังไม่ถูกสอบสวน รู้สึกกลัวจนเกิดอาการร้อนตัว แล้วก็ต้องรีบเข้าไปมอบตัวพร้อมกับสารภาพความจริงทั้งหมดกับพระราชโอรสก่อนที่ตัวเองจะถูกสอบสวนพระราชโอรสและท่านมหาเสนาบดี ก็ได้ดำเนินการสอบสวนพวกข้าราชการที่ดูแลหัวเมืองแห่งนั้นอย่างจริงจังหลังจากที่พระราชโอรสทรงทราบเรื่องราวความเป็นจริงทั้งหมดแล้ว พระองค์ก็ทรงจัดสรรที่ดินคืนให้กับพวกชาวบ้านอย่างเป็นธรรม และเมื่อพระองค์ได้ทรงทำการสืบสวนคดีความนี้อย่างละเอียดมากเข้า มากเข้า พระองค์ก็ทรงทราบข้อมูลเชิงลึกว่า “มีเสนาบดีที่ใกล้ชิดพระราชา หรือพระราชบิดาของพระองค์บางคน เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการทุจริตคอรัปชั่นในครั้งนี้ด้วย” เมื่อพระองค์ทรงทราบเช่นนี้แล้ว พระองค์จึงได้ส่งเรื่องนี้ไปยังส่วนกลางเพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไปจากนั้นพระราชโอรสก็ได้เสด็จเดินทางกลับไปยังเมืองหลวง เพื่อไปเข้าเฝ้าพร้อมกับถวายรายงานให้พระราชาได้ทรงทราบในทันที และด้วยคุณงามความดีที่ท่านมหาเสนาบดี ได้ช่วยทำให้ปัญหาในหัวเมืองชายแดนแห่งนั้นคลี่คลายลงไปนี้เอง จึงทำให้ท่านมหาเสนาบดีได้รับการแต่งตั้งเป็น “เสนาธิการทหารระดับกองทัพภาค” ที่ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบเขตพื้นที่ตลอดแนวชายแดนที่อยู่ติดกับแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือ หรือแคว้นของพระราชบิดาของพระราชาเกะกะเกเรท่านมหาเสนาบดีได้รับการแต่งตั้งเป็น เสนาธิการทหารระดับกองทัพภาคหลังจากที่ท่านมหาเสนาบดีได้รับการแต่งตั้งเป็น “เสนาธิการทหารระดับกองทัพภาค” แล้ว ท่านก็ได้รวบรวมนายทหารที่มีหน่วยก้านดีมาเข้าสู่หน่วย ฉ.ก. หรือหน่วยเฉพาะกิจของท่าน แล้วท่านก็ได้ทุ่มเททำการฝึกพวกนายทหารในหน่วย ฉ.ก.ของท่านอย่างเข้มข้นอยู่เป็นประจำ อีกทั้งท่านยังได้ทำการปรับปรุงระบบการประสานงานของหน่วยงานทหารในเขตหัวเมืองชายแดนแห่งนั้นเสียใหม่อีกด้วย โดยกำหนดให้หน่วย ฉ.ก. เฉพาะกิจของท่านเป็นแกนหลักในการดำเนินการในหน่วยงานทหารทั้งหมดและในระหว่างที่ท่านมหาเสนาบดีได้ลงไปตรวจเยี่ยมแต่ละพื้นที่นั้น ตัวท่านก็จะหาโอกาสเข้าไปนมัสการพระเถระตามวัดต่างๆ อยู่เป็นประจำ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ตัวท่านได้รู้จักกับพระเถระผู้ใหญ่หลายๆ รูป ที่เคยเป็นนายทหารระดับสูงที่ผ่านการศึกสงครามมาอย่างโชกโชนในช่วงที่ท่านมหาเสนาบดีลงไปตรวจเยี่ยมแต่ละพื้นที่นั้น ตัวท่านก็หาโอกาสเข้าไปนมัสการพระเถระตามวัดต่างๆ อยู่เป็นประจำและเมื่อพระเถระผู้ใหญ่รูปหนึ่งได้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการที่จะดูแลรักษาแว่นแคว้นของท่านมหาเสนาบดีแล้ว พระเถระผู้ใหญ่รูปนี้ก็ได้เมตตาถ่ายทอดวิชาอาคมที่ใช้ในด้านการรบขั้นสุดยอดให้กับท่านมหาเสนาบดีอย่างเต็มที่ อีกทั้งพระเถระผู้ใหญ่รูปนี้ยังได้แนะนำให้ท่านมหาเสนาบดีไปพบกับนายทหารนอกราชการ ที่มีความเชี่ยวชาญวิชาคาถาอาคมทางด้านอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งท่านมหาเสนาบดีก็ได้ตั้งใจฝึกฝนร่ำเรียนวิชาคาถาอาคมต่างๆ ด้วยความสนอกสนใจและใส่ใจเป็นอย่างมากในระหว่างที่ท่านมหาเสนาบดี กำลังฝึกฝนร่ำเรียนวิชาคาถาอาคมต่างๆ อยู่นั้น ท่านมหาเสนาบดีก็ได้พัฒนางานด้านต่างๆ ภายในกองทัพภาคที่ตัวท่านสังกัดอยู่ควบคู่ไปด้วยกัน โดยท่านมหาเสนาบดีมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างความเข้มแข็งและความเป็นระเบียบให้เกิดขึ้นกับกองทัพให้ได้ แต่เมื่อทางท่านแม่ทัพภาคได้เห็นท่านมหาเสนาบดีพัฒนางานต่างๆ ของกองทัพแล้ว ท่านแม่ทัพภาคกลับมีความรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านฟุ้งซ่านรำคาญใจว่า “ทำไมท่านมหาเสนาบดีจะต้องทำโน่น ทำนี่ เยอะแยะมากมายด้วย ซึ่งของเดิมๆ ที่มีอยู่มันก็ดีอยู่แล้ว คือแม่ทัพภาคท่านนี้รู้สึกว่าท่านมหาเสนาบดีขยันเกิน” เห็นแล้วอารมณ์เสีย ซึ่งท่านมหาเสนาบดีก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ไม่ค่อยพึงพอใจของแม่ทัพภาคท่านนี้ท่านมหาเสนาบดีได้พัฒนางานด้านต่างๆ ภายในกองทัพภาคที่ตัวท่านสังกัดอยู่ควบคู่ไปด้วยกันส่วนว่าสาเหตุใดที่ทำให้แม่ทัพภาคท่านนี้ รู้สึกไม่ค่อยจะสบอารมณ์กับความขยันของท่านมหาเสนาบดีนั้น เราก็คงจะต้องมาติดตามกันในตอนต่อไปกรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)
บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป
"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)
มหาเสนาบดี ผู้ยิ่งใหญ่ ตอนที่ 18
[ 14 พ.ย. 2555 ] - [ 18286 ]
Desktop Version
